ธารน้ำแข็งบนยอดเขา “มงบล็อง” ใกล้จะพังทลายเต็มที หลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน

สำหรับคนที่ติดตามข่าวเรื่องภาวะโลกร้อน เชื่อว่าคงมีหลายคนไม่น้อยที่ทราบข่าวการคาดการของนักวิทยาศาสตร์ที่ว่า ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ส่วนมาก จะละลายหายไปหมดภายในปี 2100

นี่อาจจะเป็นตัวเลขปีที่ดูนานและอาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่ามันไม่น่าใส่ใจนัก แต่ในขณะที่เราเพิกเฉยต่อการคาดการนี้อยู่ การละลายของครั้งใหญ่ของธารน้ำแข็งก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มต้นขึ้นเสียแล้ว

เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง เจ้าหน้าที่ของประเทศอิตาลีได้ทำการตรวจสอบธารน้ำแข็งของยอดเขามงบล็องยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับประเทศอิตาลี พวกเขาก็ได้พบว่า

ธารน้ำแข็งบนพื้นที่ยอดเขานั้น ในปัจจุบันอยู่ในสภาพที่ใกล้จะพังทลายลงมาเมื่อไหร่ก็ได้เสียแล้ว

การตรวจสอบในครั้งนี้ทำให้ทางรัฐบาลของอิตาลีจำเป็นต้องประกาศการอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในกระท่อมบนภูเขาและปิดถนนใกล้กับธารน้ำแข็งชื่อ Planpincieux ในทันที อย่างไรก็ตามพื้นที่ทั้งสองก็ใช่ว่าจะเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวที่อาจต้องเสี่ยงกับภัยพิบัติจากธารน้ำแข็งนี้

นั่นเพราะอ้างอิงจากรายงานของรัฐบาลแคว้นวัลเลดอสต์ ธารน้ำแข็งเจ้าปัญหานี้กำลังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วราวๆ 50-60 เซนติเมตรต่อวันโดยเฉลี่ย ซึ่งหมายความว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปน้ำแข็งกว่า 250,000 ลูกบาศก์เมตร ก็อาจจะไหลลงมาจากภูเขาในสภาพคล้ายหิมะถล่มและสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่รอบๆ ได้อีกมาก

โดยคุณ Stefano Miserocchi เทศมนตรีแห่งเมือง Courmayeur ของอิตาลีได้ให้ข้อมูลเพิ่มเต็มเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ปรากฏการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นเป็นอย่างดีว่าภูเขาอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงรุนแรงอันเกิดจากปัจจัยสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก”

ที่เป็นเช่นนี้นั้นเป็นเพราะต่างไปจากธารน้ำแข็งหลายๆ ที่ในโลก ธารน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์มักจะตั้งอยู่ในจุดที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดที่น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้การเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยของอุณหภูมิจึงสามารถทำให้ธารน้ำแข็งพวกนี้เสียการคงตัวได้เลย

และในกรณีที่เลวร้ายที่สุด หากอุณหภูมิของโลกตั้งคงเพิ่มขึ้นเช่นนี้ต่อไป ในปี 2100 น้ำแข็งกว่า 95% ของเทือกเขาแอลป์ก็คงจะละลายลงมาหมดตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดการไว้แน่ๆ

นับว่าเป็นโชคดีมากที่ในปัจจุบันนอกจากจุดที่มีการสั่งอพยพแล้ว ทางรัฐบาลก็ค่อนข้างมั่นใจว่าการละลายของธารน้ำแข็งนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท่องเที่ยวหรือที่อยู่อาศัยอื่นๆ

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันชะตาของธารน้ำแข็งบนเทือกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป และสรุปแล้วน้ำแข็งจะพังลงมาเมื่อไหร่นั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้เลย

ที่มา livescience, theguardian และ nytimes