ย้อนกลับไปในปี 1999 ที่ใกล้ๆ ยอดภูเขาไฟ Llullaillaco ในประเทศอาร์เจนตินา ได้มีการพบมัมมี่ร่างของเด็กชาวอินคา 3 คน ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี และสมบูรณ์มากราวกับเพิ่งเสียชีวิต
เด็กทั้งสามคนนี้ เชื่อกันว่าเป็นเด็กที่ถูกเลือกเป็นเหยื่อบูชายัญอันเป็นพิธีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และได้รับการตั้งชื่อว่า
La doncella หรือ “สาวพรหมจรรย์” El niño หรือ “เด็กหนุ่ม” และ La niña del rayo หรือ “เด็กสาวแห่งสายฟ้า”
เด็กที่อายุมากที่สุดคือ La doncella ซึ่งมีอายุอยู่ที่ 13 ปี ตามมาด้วย El niño ที่อายุ 7 ปี และ La niña del rayo ที่อายุ 6 ปี อย่างไรก็ตามทั้งสามไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เด็กทั้งสามมีร่องรอยของการใช้ยาเสพติดและสุรา ซึ่งเชื่อกันว่าทำไปเพื่อให้เด็กๆ “ให้ความร่วมมือ” ในพิธีกรรมมากขึ้น
ดูเหมือนว่าในบรรดาเด็กๆ ทั้งสาม คนที่มีความสำคัญมากที่สุดจะเป็น La doncella เพราะนอกจากเธอจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายที่ดูดีกว่าคนอื่นๆ แล้ว
เธอยังได้รับอาหารที่ดีกว่าเด็กที่เหลือ รวมทั้งมีปริมาณการใช้ยาเสพติดและสุรามากกว่าคนอื่นๆ ด้วย ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเด็กที่เหลือเพียงแค่ติดตามเธอไปทำพิธีเท่านั้น
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่าการถูกเลือกเป็นเหยื่อบูชายัญในเผ่าอินคาน่าจะนับเป็นเรื่องที่มีเกียรติมาก
เพราะจากการตรวจสอบเส้นผมของเด็กทั้งสามแล้ว เดิมทีพวกเด็กๆ มีชีวิตความเป็นอยู่ใกล้เคียงกันมาก่อน แต่หลังจาก La doncella ถูกเลือกเป็นเหยื่อบูชายัญเธอกลับได้รับการดูแลที่ดีกว่าอีก 2 คนมาก
แต่แม้ว่าจะมีการใช้ยาเสพติดเพื่อ “ความร่วมมือ” ในพิธีแล้วก็ตาม ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่ม El niño จะไม่ได้มีความตายที่สงบเท่าไหร่นัก
เพราะเขาเป็นคนเดียวที่มีร่องรอยของการถูกมัด แถมยังมีรอยเลือดตามเสื้อผ้าด้วย ผิดกับ La doncella และ La niña del rayo ที่แข็งตายในยามหลับ
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ เราพอจะคาดเดาได้ว่าการบูชายัญของอินคานั้น ใช่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยความสมัครใจเสมอไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามหลายครั้งพิธีกรรมที่ว่าก็มักจะ “เป็นไปได้ด้วยดี” และเหยื่อบูชายัญจากไปอย่างสงบ
นี่นับเป็นอีกหนึ่งการค้นพบครั้งสำคัญของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะแม้ทั้งสามจะไม่ได้มาจากยุคเก่าแก่ แต่ก็สมบูรณ์แบบมากจนนักวิทยาศาสตร์สามารถหาข้อมูลมากมายจากเด็กเหล่านี้ได้
และข้อมูลของพวกเขาก็จะช่วยให้เราสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตของคนสมัยโบราณ ที่อาจจะไม่มีการบันทึกไว้หลายต่อหลายข้อเลย
ที่มา ranker, livescience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น