เหนือขึ้นไปในห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ของระบบสุริยะ ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งที่ในปัจจุบันเรายังไม่สามารถระบุได้แน่นอน ยังคงมีดาวเคราะห์น้อยลึกลับอยู่ลูกหนึ่ง
มันเป็นดาวเคราะห์น้อยที่เราคาดกันว่ามีขนาดพอๆ กับดาวเคราะห์แคระ และด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง มันก็ปล่อยก้อนอุกกาบาตมายังโลกอยู่เป็นพักๆ เสียด้วย
หลักฐานการมีตัวตนอยู่ของดาวเคราะห์น้อยที่กล่าวมานี้ ถูกพบเป็นครั้งแรกในปี 2008 เมื่อเกิดเหตุอุกกาบาตเพชรชื่อ “Almahata Sitta” ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหนือท้องฟ้าที่ซูดาน
โดยหลังจากนักวิทยาศาสตร์นำตัวอย่างมองอุกกาบาตที่พบไปตรวจสอบพวกเขาก็พบว่าอุกกาบาตที่ตกลงมานั้น แท้จริงแล้วน่าจะแยกตัวมาจากอุกกาบาตที่ใหญ่กว่าอีกที
แถมอุกกาบาตลูกดังกล่าวนี้ก็อาจจะมีขนาดใหญ่ได้พอๆ กับ ดาวเคราะห์แคระซีรีส (เส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 950 กิโลเมตร) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดีเลยด้วย

“อุกกาบาตเหล่านี้บางส่วน มีองค์ประกอบหลักเป็นแร่ธาตุที่ที่แสดงหลักฐานการสัมผัสกับน้ำที่อุณหภูมิต่ำและมีความกดดัน” คุณ Vicky Hamilton หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว
“ในขณะที่องค์ประกอบของอุกกาบาตอื่นๆ ชี้ให้เห็นถึงความร้อนในจุดที่ไม่มีน้ำ”
เรื่องที่ออกมาทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอุกกาบาตลึกลับที่เรากำลังกล่าวถึง มีความเป็นไปได้สูงที่จะ เก็บงำชุดแร่ที่ผิดปกติซึ่งก่อตัวที่อุณหภูมิและความกดดัน “ระดับกลาง” เอาไว้เป็นจำนวนมาก
(อุณหภูมิและความกดดันสูงกว่าที่พบในดาวเคราะห์น้อยทั่วไป แต่ต่ำกว่าภายในดาวเคราะห์ )
แถมหนึ่งในแร่ที่กล่าวมานั้นก็ได้แก่ “แอมฟิโบล” ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีน้ำเท่านั้นด้วย

นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมากอีกเรื่องเลย เพราะมันมีความเป็นไปได้สูงที่ดาวเคราะห์น้อยลึกลับซึ่งมีขนาดใหญ่เช่นนี้ อาจเคยเป็นเคราะห์ในระบบสุริยะที่สลายตัวไปแล้วเมื่อหลายพันล้านปีก่อน
และหากเราสามารถตามหาดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวพบจริงๆ การศึกษาตัวตนของมันก็อาจจะนำไปสู่การไขปริศนาการกำเนิดระบบสุริยะได้ไม่ยากเลย
ที่มา livescience และ bbc
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น