ย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ค่ายกักกันในโปแลนด์ได้เกิดเรื่องพูดคุยอย่างหนาหู ว่าทหารนาซีที่ควบคุมค่ายหลายแห่ง มีความชอบแบบแปลกๆ ที่จะสะสมสิ่งของที่ทำจากหนังมนุษย์
และแล้วหลังจากที่เวลาผ่านล่วงเลยไปร่วม 75 ปี เมื่อล่าสุดนี้เอง ภายในตลาดที่โปแลนด์ นักสะสมไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่งก็ได้พบกับอัลบั้มรูป และบันทึกโบราณถูกนำมาวางขายไว้ ซึ่งด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ที่หน้าปกอัลบั้มดังกล่าวก็ “มีรอยสัก เส้นผม และกลิ่นเหม็น” ติดอยู่
ลักษณะของอัลบั้มรูปทำให้นักสะสมตัดสินใจซื้อ หนังสือทั้งสองเล่มมา ก่อนที่จะส่งมันไปให้กับพนักงานที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์เอาชวิทซ์ เพื่อให้มันได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอีกที
และก็เป็นที่นั่นเอง ที่สิ่งที่นักสะสมกลัวไว้ได้กลายเป็นความจริง เพราะเมื่อทางผู้เชี่ยวชาญของพิพิธภัณฑ์ตรวจสอบสิ่งที่ได้มา พวกเขาก็พบว่าอัลบั้มรูปเล่มนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกทำขึ้นจากหนังของนักโทษ ซึ่งถูกสังหารในค่ายกักกันบูเคินวัลท์
อ้างอิงจากคุณ Elzbieta Cajzer หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ หนังสือ 2 เล่มนี้ในอดีต น่าจะเคยเป็นสมบัติของชาวบาวาเรีย ตระกูลหนึ่งซึ่งเคยเปิดเกสต์เฮาส์ที่ทหารนาซีไปพักในอดีต โดยพวกเขาได้รับอัลบั้มดังกล่าวมาจากทหารน่าซีที่ทำงานในค่ายอีกที และอาจจะไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามันทำจากอะไร
“การใช้ผิวหนังของมนุษย์เป็นวัตถุดิบในการผลิตหนังสือนั้น เกี่ยวข้องโดยตรงกับหญิงชื่อ Ilse Koch โดยเธอและสามีเป็นคู่รักที่มีชื่อเสียงในฐานะของฆาตกรจากค่ายบูเคินวัลท์อีกที” Elzbieta อธิบาย
Ilse Koch นั้น มีชื่อเล่นว่า “แม่มดแห่งบูเคินวัลท์” โดยเธอถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นคนทั้งโหดร้ายและซาดิสม์ รักในการทรมานนักโทษในค่าย แถมยังถูกเชื่อว่ามีรสนิยมแปลกๆ ในการเก็บ “หนัง” ของนักโทษที่มีรอยสักเอาไว้โชว์ในบ้านและทำเป็นเครื่องใช้เลย
เธอเป็นบุคคลเจ้าปัญหาถึงขั้นที่ว่าเธอต้องเข้าออกคุกอยู่หลายครั้ง ซึ่งในบรรดาการเข้าคุกดังกล่าวก็รวมไปถึงการโดนจับโดยนาซีด้วยกันเองในปี 1943 ด้วย
Ilse Koch “แม่มดแห่งบูเคินวัลท์”
แต่ทั้งนี้เอง แม้ว่าหนังสือที่พบจะถูกอ้างว่าทำจากหนังมนุษย์ก็ตาม และมาจากค่ายของ Ilse Koch ก็ตาม แต่ภาพกว่า 100 รูปที่ถูกเก็บไว้ภายในหนังสือ กลับไม่ได้เป็นภาพความโหดร้ายในค่ายเลย
เพราะภาพที่ถูกเก็บไว้นั้นล้วนแต่จะเป็นเพียงภาพวิวและทัศนียภาพเท่านั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ หากเจ้าของคนเก่าจะนำมันมาขาย โดยที่ไม่ทราบเรื่องราวเบื้องหลังของมันมาก่อนเลย
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น