CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ผู้เชี่ยวชาญอ้าง ยืนยันที่ตั้ง “เรือโนอาห์” ในตุรกี เตรียมปล่อยภาพสแกน 3 มิติเป็นหลักฐาน

หนึ่งในคำถามเกี่ยวกับศาสนาคริสต์และวิทยาศาสตร์ที่มีการถกเถียงกันมากที่สุด ตั้งแต่ในอดีตมาก็คงจะไม่พ้นตัวตนขอ “เรือโนอาห์” ที่เคยถูกใช้ในวันน้ำท่วมโลกเป็นแน่ นั่นเพราะหากในอดีตเคยมีคนสร้างเรือขนาดใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ ทำไมกันเราถึงไม่เคยพบหลักฐานของมันมาก่อนเลย

 

 

ดังนั้น การค้นพบในครั้งนี้ จึง “อาจจะ” กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของทั้งวงการวิทยาศาสตร์ ศาสนา และโบราณคดีเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อล่าสุดนี้เอง ได้มีทีมผู้เชี่ยวชาญและนักล่าสมบัติกลุ่มหนึ่งออกมาอ้างว่า

พวกเขาสามารถยืนยันที่ตั้งของเรือโนอาห์ของจริงเข้าให้แล้ว ภายในหุบเขาห่างไกล ทางตะวันออกของประเทศตุรกี

อ้างอิงจากคำกล่าวอ้างของทีมงานร่องรอยของเรือโนอาห์ ถูกค้นพบในพื้นที่ที่เรียกว่า Durupınar ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการกล่าวอ้างมาเป็นเวลานานว่ามีเรือโนอาห์ฝังอยู่จากรูปร่างของพื้นที่ และเมื่อราวๆ 50 ปีก่อน ทีม “ผู้เชี่ยวชาญ” ได้ทำการจับภาพใต้ดินของวัตถุลึกลับรูปร่างคล้ายกับเรือเอาไว้

 

 

แน่นอนว่าคำกล่าวอ้างของพวกเขา ไม่ใช่ว่าจะเป็นที่เชื่อถือของคนทุกคนแต่อย่างไร เพราะตั้งแต่ในอดีต นักธรณีวิทยาหลายท่านก็เคยออกมาอธิบายแล้วว่ารูปร่างของพื้นที่ Durupınar เป็นเพียงแค่การเรียงตัวแบบผิดปกติในการก่อตัวของภูเขาก็เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ต่างไปจากการกล่าวอ้างลอยๆ ในอดีต ทีมนักล่าสมบัติกลุ่มนี้บอกว่าพวกเขามีภาพสแกน 3 มิติจากการ “ส่งสัญญาณไฟฟ้าใต้ดินผ่านสายเคเบิล” ภาพหนึ่งที่จะสามารถยืนยันการค้นพบของพวกเขาได้ และพวกเขาก็มีแผนที่จะเปิดเผยภาพดังกล่าวในรูปแบบสารคดี ภายในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

“นี่คือภาพที่แท้จริงของเรือโนอาห์” คุณ Cem Sertesen นักล่าสมบัติผู้ตามหาเรือโนอาห์มาเป็นเวลานานกล่าว “มันไม่ใช่ของปลอมหรือของจำลอง แต่เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าเรือทั้งหมดถูกฝังอยู่ใต้ดินจริงๆ เลย”

 

ภาพจำลอง 3 มิติของพื้นที่ Durupınar ที่ถูกทำออกมาในปี 2017

(ยังไม่ทราบว่าใช่ภาพเดียวกับที่คุณ Cem Sertesen อ้างหรือไม่)

 

อ้างอิงจากในพระธรรมปฐมกาล หลังจากที่โนอาห์ช่วยเหลือสัตว์ทุกชนิดและลอยลำบนเรืออยู่เป็นเวลานาน ในท้ายที่สุดตัวเธอโนอาห์ก็ได้หลับใหลไปในหุบเขาที่ชื่อ Ararat ซึ่งส่งผลให้มีนักล่าสมบัติจำนวนมากพยายามเข้าไปหาเรือลำดังกล่าวในพื้นที่ ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของมนุษย์

แต่แม้ว่าในพื้นที่จะเคยถูกค้นหาในแทบทุกซอกทุกมุมแล้วก็ตาม ที่ผ่านๆ มา เรากลับไม่เคยมีการพบหลักฐานจริงๆ ของเรือที่น่าจะมีขนาดใหญ่กว่า 150 เมตรลำนี้เลยแม้แต่น้อย

 

 

ดังนั้น ในกรณีที่คำกล่าวอ้างของนักล่าสมบัติกลุ่มนี้เป็นความจริง ภาพหลักฐานที่พวกเขามีอยู่ ก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ไปเลยก็เป็นได้

แต่เรื่องที่ว่าคำกล่าวอ้างของพวกเขาจะเป็นความจริงหรือไม่นั้น เราก็คงจะต้องติดตามข่าวนี้กันต่อไปก่อนในปัจจุบัน

 

ที่มา thesun, foxnews


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น