อย่างที่เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันบริษัทหรือร้านอาหารหลายๆ แห่งจะจ้าง ‘ผู้มีความบกพร่อง’ หรือก็คือผู้พิการ เข้ามาช่วยในส่วนที่พวกเขาสามารถทำได้
Burger King เองก็ได้เปิดโอกาสในการรับพนักงานที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ให้พวกเขาได้มีงานทำ และช่วยในเรื่องของการให้บริการกับลูกค้าในบางสาขา
ตัวอย่างร้าน Burger King สาขาที่มีพนักงานหูหนวกทำงานอยู่ (ตรงโลโก้จะต่างไปเล็กน้อย)
แต่แล้วชายคนหนึ่งก็ได้ตั้งคำถามขึ้นมาเกี่ยวกับการมีพนักงานที่บกพร่องทางการได้ยินว่า อย่างนี้มันคือการสร้างแผนทางการตลาดหรือเปล่า?
“ผมควรต้องนับถือในสิ่งที่ Burger King ทำอยู่นี้ หรือควรต้องบอกว่ามันคือกลยุทธ์ทางการตลาดโง่ๆ ที่ต้องการความเห็นอกเห็นใจจากเรากันแน่?”
https://twitter.com/chillisauceabc/status/1168921048710094850
พนักงานหูหนวก ร้าน Burger King สาขาหนึ่งในประเทศอินโดนีเซีย
.
โพสต์จากวันที่ 3 กันยายน 2019 ได้กลายเป็นการปลุกกระแสของผู้คนในโลกโซเชียล และนั่นก็ทำให้ทาง Burger King อินโดนีเซียเองก็ออกมาตอบถึงสิ่งที่ชายคนนั้นพูดว่า
“นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ทางการตลาดโง่ๆ มันก็แค่สิทธิความเท่าเทียมสำหรับทุกคนที่ควรจะได้มีงานที่เหมาะสมทำ ยังไงก็ขอบคุณที่คุณช่วยพูดมันขึ้นมา”
It’s not a marketing strategic shit. It’s just an equal right for everyone to have a decent job thing. Thanks for the shout out tho! 😬 https://t.co/7uOl6hcNBs
— Burger King Indonesia (@BurgerKing_ID) September 5, 2019
หลังจากนั้นผู้คนก็แห่กันเข้ามาชื่นชมในคำตอบของทาง Burger King ซึ่งพวกเขาต่างมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้ดูเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเลยแม้แต่น้อย
“การช่วยเหลือผู้พิการให้มีงานทำ สิ่งนั้นกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดไปแล้วหรือ?”
“ความเห็นอกเห็นใจไม่ใช่เรื่องแย่ มันไม่ควรถูกมองว่าเป็นอย่างนั้นเลยด้วยซ้ำ การมีความเห็นอกเห็นใจคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ และมันมีการศึกษาบอกด้วยนะว่าคนที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่า ก็จะมีความสุขมากกว่าคนอื่นด้วย”
“ใช่แล้ว มันคือการแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าโอกาสการจ้างงานอย่างเสมอภาค”
“โว้วว ผมนับถือพวกคุณทุกคนจากใจจริง บริษัทใหญ่ๆ ที่ว่าจ้างบุคคลพิเศษและมอบสิทธิความเท่าเทียมให้กับพวกเขา ผมขอบคุณพวกคุณมากๆ”
“ไม่ต้องไปสนใจโพสต์น่ารำคาญนั้นหรอก ทำอย่างนี้ต่อไปแหละ Burger King”
“สิ่งนี้ต้องกลายเป็นเทรนด์ที่ดีเทรนด์หนึ่งแน่นอน จงทำดีต่อไป”
ล่าสุด หลังจากที่มันเป็นกระแสหนักเข้าเรื่อยๆ ทางผู้ใช้ทวิตเตอร์ @chillisauceabc ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษเกี่ยวกับกระแสที่เกิดขึ้น และบอกว่าเขาเพียงต้องการจะตั้งคำถามก็เท่านั้นเอง
“โพสต์นี้เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ผมอยากขอโทษที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดจากคำพูดที่ผมใช้ไปอย่างไม่เหมาะสม ทำให้มันหลุดประเด็นคำถามไป ไม่ว่าคุณจะเข้าใจว่าอย่างไร ผมก็ขอโทษด้วย ผมเพียงตั้งคำถาม ไม่ได้ต่อต้าน”
https://twitter.com/chillisauceabc/status/1169859591544328193
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: @chillisauceabc , @BurgerKing_ID , BoredPanda
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น