เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าเมื่อโลกร้อนขึ้นธารน้ำแข็งในที่ต่างๆ ของโลกก็จะค่อยๆ ละลายตามไปด้วย โดยเรื่องราวแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ขั้วโลกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภูเขาที่มณฑลฮอร์ดาแลนด์ของประเทศนอร์เวย์ด้วย
แน่นอนว่าเมื่อน้ำแข็งละลายไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ของซึ่งเคยอยู่ในน้ำแข็งจะปรากฏขึ้นมาให้โลกได้เห็นกันอีกครั้ง และในกรณีของนอร์เวย์เอง สิ่งที่เคยอยู่ในน้ำแข็งที่ว่าก็บังเอิญเป็นวัตถุโบราณอายุกว่า 1,000 ปีเสียด้วย
นี่คือหัวลูกศรเหล็กขนาด 12 เซนติเมตร ซึ่งถูกค้นพบเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา โดยคุณ Ernst Hagen ผู้เป็นคนในพื้นที่ที่ในเวลานั้น กำลังเดินอยู่บนภูเขาใกล้ๆ ไอด์ฟยอร์ด ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งหัวลูกศรที่พบไปให้นักโบราณคดีต่อไป
เมื่อนักโบราณคดีทำการตรวจสอบลูกศรในเบื้องต้นพวกเขาก็พบว่ามันมีอายุถึงราวๆ 1,000 ปี และในอดีตน่าจะเคยถูกใช้งานโดยนายพรานล่ากวาง ผู้ซึ่งขึ้นไปบนเขาเพื่อล่ากวางเรนเดีย แต่ก็ยิงศรลูกนี้พลาดจนมันฝังลงไปในหิมะ ซึ่งต่อมาทับถมกันจนกลายเป็นน้ำแข็ง
นี่นับว่าเป็นการค้นพบที่อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศอื่นๆ อย่างเช่นอังกฤษ แต่สำหรับที่นอร์เวย์ โดยเฉพาะในมณฑลฮอร์ดาแลนด์ นี่นับว่าเป็นการค้นพบที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย อ้างอิงจากนักโบราณคดีอย่างคุณ Tore Slinning
คุณ Ernst Hagen และลูกศรที่เขาพบ
นั่นเพราะในพื้นที่ภูเขาน้ำแข็งแบบนี้หากหัวลูกศรถูกปล่อยเอาไว้ให้โดนอากาศมันจะถูกกัดกร่อนจนหายไปอย่างสมบูรณ์ได้ในเวลาสั้นๆ อย่างในกรณีของศรที่พบเอง ตัวธนูที่เป็นไม้ก็ได้เน่าสลายหายไปหมดแล้วด้วย
“เราไม่อาจทราบว่าเมื่อใดที่ลูกศรจะถูกกัดกร่อนจนสลายไป ในดินทุกอย่างจะเน่า และลูกศรอาจจะผุไปนานแล้วถ้ามันอยู่ในดิน แต่ถึงมันจะถูกห่อหุ้มด้วยหิมะและน้ำแข็ง มันก็อาจจะสลายตัวไปเร็วกว่านี้เช่นกันหากหิมะละลาย” คุณ Tore อธิบายเพิ่ม
ด้วยเหตุนี้เองการค้นพบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงนับว่าเป็นการค้นพบที่โชคดีเอามากๆ และทีมนักโบราณคดีเองก็คาดการเอาไว้ด้วยว่า ในเวลาที่น้ำแข็งเริ่มละลายไปเช่นนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมีการค้นพบวัตถุโบราณอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในอนาคต
ที่มา lifeinnorway, archaeology และ foxnews
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น