ในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ของประชาชนในประเทศชิลี อันเนื่องมาจากความไม่เท่าเทียมและการขึ้นค่าตรองชีพภายในประเทศ
ส่งผลทำให้มีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างประชาชนกับรัฐบาล มีผู้เสียชีวิตและความเสียหายหลายพันล้านบาท
เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้บานปลายทางรัฐบาลชิลีจึงประกาศภาวะฉุกเฉินในวันที่ 18 ตุลาคม 2019 ตามมาด้วยการประกาศเคอร์ฟิวบริเวณเมืองหลวงซันติอาโกและเมืองใกล้เคียง ห้ามประชาชนออกจากเคหะสถานตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า
และในค่ำคืนเคอร์ฟิวอันเงียบสงัดในวันที่ 21 ตุลาคม 2019 นักร้องโอเปร่าสาว Soprano Ayleen Jovita Romero ได้ขับร้องเสียงอันไพเราะของเธอผ่านช่องหน้าต่าง ให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้สดับรับฟังกัน
คลิปการขับร้องเสียงอันไพเราะจากฝั่งนักร้องโอเปร่า
https://www.instagram.com/p/B35z2AKJcgB/
Romero กล่าวไว้แคปชั่นบนอินสตาแกรมว่า…
“เราพิสูจน์ให้เห็นถึงพฤติกรรมอันเป็นสันติระหว่างช่วงเคอร์ฟิว ชาวบ้านในละแวกนี้ร่วมกันสนับสนุนในสิ่งที่ดีงาม ร่วมร้องเพลงและร่วมเล่นเครื่องดนตรีด้วยกัน”
“ฉันยินดีที่จะเชื้อเชิญให้ศิลปินคนอื่นๆ ทำแบบนี้อยู่ที่บ้าน ผู้คนชื่นชอบในสิ่งเหล่านี้และจะช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นมาก มันสำคัญมากๆ เลยนะคะ”
คลิปจากอีกฟากฝั่งที่ได้ยินเสียงร้องของเธอ
https://www.facebook.com/1686041134978498/videos/2250778791848563/
บทเพลงที่เธอร้องนั้นคือ El Derecho de Vivir en Paz บทเพลงที่มีความหมายกับชาวชิลีเป็นพิเศษ แต่งและขับร้องโดย Victor Jara นักกิจกรรมทางการเมืองผู้ลุกขึ้นประท้วงสงครามเวียดนามในปี 1971
และถูกหยิบยกมาถ่ายทอดความหมายใหม่ในปี 1973 หลังจากที่ประธานาธิบดี Salvador Allende ถูกโค่นล้มและสังหาร ยึดอำนาจโดยรัฐบาลทหาร Augusto Pinochet
นักดนตรีร่วมขับร้องบทเพลง El Derecho de Vivir en Paz ในวันที่ 26 ตุลาคม 2019
https://twitter.com/ErikaOSanoja/status/1188098725618561024
ปัจจุบันสถานการณ์การประท้วงของประชาชนในชิลียังไม่คลี่คลายลง ประชาชนรวมตัวกันครั้งใหญ่เคลื่อนขบวนขับไล่รัฐบาล จากปัญหาขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน เพิ่มค่าครองชีพ ความไม่เท่าเทียมกันในสวัสดิการต่างๆ
ที่มา: @ayleenjovita.soprano, buzzfeednews
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น