สำหรับคนที่รู้จักกับสัตว์ตัวน้อยแสนน่ารักอย่าง “นาก” เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะเคยเห็นวิดีโอที่พวกมันเล่นโยนหินหรือไม้ในมือ (Juggling) กันมาบ้าง เพราะนี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างแปลก ในทางวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนเองก็สงสัยกันมาเป็นเวลานานแล้วว่าทำไมกันนากเหล่านี้ถึงได้เล่นโยนหินเช่นนี้กัน
ดังนั้น เพื่อที่จะหาความจริงในจุดนี้ให้ได้ เมื่อล่าสุดนี้เองทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Exeter ในสหราชอาณาจักร จึงได้ตัดสินใจที่จะทำการศึกษาและทดลองกับตัวนากที่อยู่ในสวนสัตว์ต่างๆ กว่า 50 ตัวในประเทศ และค้นพบจุดร่วมที่น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อเข้าจุดหนึ่ง
นั่นเพราะตัวนากที่พวกเขาทำการสังเกตการณ์นั้น แทบจะทุกตัวจะมีอัตราการเล่นโยนหินที่พุ่งสูงขึ้น ในตอนที่มันหิว
โดยกว่าที่นักวิทยาศาสตร์จะได้รับความเป็นไปได้ในจุดนี้มา พวกเขาก็ต้องใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับตัวนากจากสายพันธุ์นากเล็กเล็บสั้น และนากใหญ่ขนเรียบ อายุระหว่าง 3 เดือนถึง 19 ปี เป็นเวลานานกว่าครึ่งปี ซึ่งในช่วงนี้พวกเขาได้ลองทำการทดลองมากมาย จนกระทัjงในที่สุดพวกเขาก็มาถึงการทดลองความสามารถในการแก้ปัญหาของตัวนาก
อ้างอิงจากในรายงานเดิมทีแล้วการทดลองนี้มีเป้าหมายที่จะตรวจสอบดูว่านากจะต้องใช้เวลาแค่ไหนในการแก้ปัญหา เมื่อเทียบกับอัตราการเล่นโยนหินของมัน เนื่องจากในเวลานั้นนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเล่นโยนหินอาจเป็นการฝึกหรืออย่างน้อยๆ ก็มีความเกี่ยวข้องกับความสามารถในการหาอาหารของนาก
แต่แล้วเมื่อผลการทดลองออกมา นักวิทยาศาสตร์ก็ต้องพบมาแนวคิดของพวกเขานั้นไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะความถี่การโยนหินของตัวนากนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแก้ปัญหาของมันเลย
กลับกัน พวกเขากลับพบว่านากเหล่านี้แทบจะทุกตัว จะมีอัตราการเล่นโยนหินที่เพิ่มขึ้นจากปกติ ในช่วงเวลาก่อนที่มันจะได้ทานอาหารแทน ซึ่งลักษณะการกระทำนี้ ก็ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ว่าการเล่นโยนหินนั้น อาจเป็นการแสดงออกถึงความหิวได้เป็นอย่างดี
วิดีโอภาพตัวนากเล่นโยนหินจากในงานวิจัย
แน่นอนว่าแนวคิดในจุดนี้ ในปัจจุบันยังคงถือว่าไม่สมบูรณ์นัก และยังคงต้องการหลักฐานสนับสนุนอีกมาก นั่นเพราะมันใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่การเล่นโยนหินของตัวนากจะมาจากเหตุผลง่ายๆ อย่างเป็นการเล่นฆ่าเวลาเท่านั้น
แต่แม้ว่าสุดท้ายแล้วเหตุผลเบื้องหลังจากเล่นโยนหินของตัวนากจะยังคงเต็มไปด้วยปริศนาก็ตาม เราก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในระหว่างการวิจัยในครั้งนี้นักวิทยาศาสตร์คงจะได้พบภาพน่ารักๆ ของตัวนากเป็นจำนวนมากเลยแน่ๆ
ที่มา cnn, allthatsinteresting และ sciencenews
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น