เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหาการลักลอบค้า ‘ตัวลิ่น’ หรือ ‘ตัวนิ่ม’ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตกเป็นสินค้าผิดกฎหมายและมีการลักลอบค้ามากที่สุดในโลก เนื่องจากความเชื่อทางด้านสรรพคุณทางยาแผนโบราณที่นิยมใช้ในประเทศจีนและเวียดนาม
ล่าสุดนี้ทางการจีนได้ประกาศถอดถอนชื่อของเกล็ดตัวนิ่มออกจากรายชื่อตำรับยาแผนโบราณแล้ว จากเหตุที่มีการยกระดับคุ้มครองจากสัตว์ป่าประเภทที่ 2 ที่ยังใช้ทางการแพทย์ได้ ถูกยกให้เป็นประเภทที่ 1 ไม่สามารถนำมาใช้และบริโภคในทุกกรณี ซึ่งเป็นการคุ้มครองระดับสูงสุดตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของจีนเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน
โดยที่ผ่านมาตัวนิ่มจะถูกล่าและลักลอบค้าเพื่อนำเกล็ดของมันมาใช้ประกอบเป็นยาแผนโบราณ เชื่อว่ามีสรรพคุณในการรักษาอาการวิตกกังวล โรคฮิสทีเรียในเด็ก ใช้ไล่ปีศาจและอสูรในผู้หญิง รักษาไข้มาลาเรีย และอาการหูหนวก
นอกจากนั้นยังเชื่อว่าช่วยในเรื่องของลิ่มเลือด ช่วยการหมุนเวียนของเลือด ช่วยผลิตน้ำนมสำหรับผู้หญิง
ทว่าในทางกลับกันเกล็ดของตัวนิ่มนั้นทำมาจากเคราติน โปรตีนชนิดเดียวกันกับเล็บและผมของมนุษย์ และยังไม่มีการพิสูจน์ได้ว่าเกล็ดของตัวนิ่มมีสรรพคุณทางยาใดๆ
และที่ผ่านมานอกจากเกล็ดตัวนิ่มแล้ว เนื้อของตัวนิ่มจะกลายมาเป็นอาหารโอชะในบางประเทศ รวมถึงเกล็ดบางส่วนจะนำไปใช้ประกอบพิธีกรรมและเครื่องประดับ
และด้วยท่าทีของจีนเช่นนี้ ทำให้กลุ่มอนุรักษ์คาดว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงกับการลักลอบค้าตัวนิ่มลดลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทางการจีนจะบังคับใช้มากน้อยแค่ไหน โดยข้อมูลที่ผ่านมาระบุว่าตัวนิ่มเป็นสัตว์ที่ถูกลักลอบค้ามากถึง 20% ของการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายในโลก
ที่มา: globaltimes, ecowatch, cnn, ladbible
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น