CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

หมอจีนผู้ทุ่มเท ยอมทนเจ็บเพื่อยืนผ่าตัดรักษาคนไข้ก่อน จนตัวเองเจ็บหนักรับผ่าตัดทีหลัง

กว่าจะมาเป็นหมอรักษาคนไข้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องผ่านการเรียนทางด้านการแพทย์ ไหนจะต้องมารับมือกับคนไข้อีกหลากหลายประเภทในโรงพยาบาลอีก ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถสูงมากๆ

และด้วยจรรยาบรรณทางวิชาชีพที่ยึดหลักในเรื่องของการรักษาคนไข้ แพทย์ที่ดีจะยกให้คนไข้ต้องมาก่อนส่วนเรื่องของตัวเองจะไว้ทีหลัง

 

 

ตัวอย่างจากเคสของศัลยแพทย์ Liu จากเมืองหวายอัน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. เขาได้รับแจ้งว่ามีคนไข้ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้

 

นายแพทย์ Liu ในชุดผ่าตัดอยู่บนเตียงผ่าตัด

 

ในขณะนั้นนายแพทย์ Liu ประจำเวรอยู่ เขาตัดสินใจรับเคสผ่าตัดแทบจะในทันทีทันใดโดยไม่รีรอ แต่ในขณะที่กำลังผ่าตัดอยู่ เขารู้สึกเจ็บแปลบบริเวณเอวและหน้าท้อง แต่หน้าที่ยังคงอยู่และจะเสียเวลาอีกไม่ได้แล้วเขาจึงไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองเลย

 

 

ในระหว่างการผ่าตัดคุณหมอต้องทนเจ็บอย่างต่อเนื่อง ฉีดยาแก้ปวดเข้าเส้นเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ แม้จะมียาแก้ปวดแล้วแต่อาการเจ็บยังมีอยู่ คุณหมอก็ทำการผ่าตัดจนเสร็จใช้เวลานานร่วมชั่วโมง

 

 

ด้วยการตัดสินใจนี้ คุณหมอ Liu สามารถช่วยชีวิตคนไข้ไว้ได้สำเร็จและมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่อาการของคุณหมอเองกลับแย่ลงเรื่อยๆ อาการเจ็บบริเวณเอวและหน้าท้องก็กลับมาหนักขึ้น

ในที่สุดเขาก็ทนเจ็บไม่ไหว แพทย์ท่านอื่นจึงรีบพาเขาไปตรวจที่แผนกระบบทางเดินปัสสาวะในขณะที่ยังสวมชุดผ่าตัดอยู่อย่างนั้น

 

 

หลังจากตรวจดูแล้วก็พบว่าคุณหมอ Liu มีก้อนนิ่วขนาด 1 ซม. สะสมอยู่ในทางเดินปัสสาวะ หากไม่ได้รับการรักษาที่ดีอาจนำไปสู่การติดเชื้อในระบบปัสสาวะจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

การผ่าตัดรักษาคุณหมอ Liu จึงเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่หมอเพิ่งผ่าตัดคนไข้เสร็จ ไม่มีแม้กระทั่งเวลาเปลี่ยนเป็นชุด จากคุณหมอกลายมาเป็นคนไข้ทันที

 

 

โชคดีที่การผ่าตัดรักษาหมอก็ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นและพักรักษาตัวจนดีขึ้นตามลำดับ ทางด้านชาวเน็ตเองต่างชื่นชมคุณหมอ Liu ที่ทุ่มเทรักษาชีวิตคนไข้เอาไว้ได้ ซึ่งตัวคุณหมอเองก็เปิดใจกับสื่อว่าเขาจะให้คนไข้มาก่อนตัวเองเสมอ มันเป็นหน้าที่ของหมอที่ต้องทำ

 

ที่มา: news.163, chinapress, sinchew


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น