เด็กๆ นั้นรู้ประสีประสากว่าที่เราคิดกันไว้มาก และสามารถซึมซับอะไรต่อมิอะไรมาได้ง่าย หลายคนคงมีวีรกรรมเด็ดๆ ที่มีทั้งที่ยังเอามาเล่าให้ขำได้ตลอด หรืออยากจะฝังดินให้มิดแล้วเก็บเป็นความลับตลอดกาล
บางทีการกระทำเล็กๆ ที่ดูตลกและบ้าบอในตอนนั้น ก็สามารถสะท้อนถึงความคิดและตัวตนของพวกเราได้เป็นอย่างดีเลยแหละ
และเมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @chrelisem เปิดประเด็นขึ้นมา ชาวเน็ตอีกหลายคนเลยเข้ามาร่วมแชร์เรื่องราวตลกๆ ในวัยเด็กของตัวเอง ที่บางทียังบ่งบอกถึงตัวตนพวกเขาในปัจจุบันได้ด้วย
@chrelisem: “มีเรื่องเล็กๆในวัยเด็กที่บ่งบอกตัวตนของคุณได้มากมายอยู่รึเปล่า? ของฉันคือ ตอนอายุ 8 ขวบ ฉันกับเพื่อนไปขายพวงกุญแจทำมือตามบ้านคน เงินที่ได้เราเอาไปซื้อคัมภีร์ไบเบิลเล่มหนึ่ง
แล้วเราก็เอาไปให้คนที่ชอบบุลลี่เราที่โรงเรียนเผื่อว่าเขาจะหยุดทำสักที แล้วฉันก็ได้เข้าใจว่า คัมภีร์ไบเบิลก็ใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายได้เหมือนกัน แต่ว่านะฉันว่าจิตใจของฉันเลือกเดินมาถูกทางแล้วล่ะ”
My reasoning at the time was that if they read the Bible they would stop bullying me. I have since come to realize that in the hands of a bully the Bible can be as effective a weapon as any, but hey, my heart was in the right place.
— Christina (@christinaemoss) February 13, 2018
หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตมาร่วมแชร์เรื่องราวของตนเองกันเพียบ
ตอนอายุได้ 3 ขวบ มีเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพมาเยี่ยมบ้านแล้วถามคำถามนั่นนี่ ผมกำลังระบายสีเล่น แล้วไม่ยอมพูดอะไรสักคำ
เธอ: *หยิบสีเทียนสีแดงขึ้นมา* พูดว่า “สีแดง” สิจ๊ะ
ผม: ………….
เธอ: สีแดงไง พูดว่า “สีแดง” สิ
ผม: ………..
เธอหันไปพูดกับแม่ผม: ถ้าหากว่าเขายังไม่ยอมพูดเราอาจจะต้องมีการบำบัดนะคะ
ผม: ไม่ใช่สีแดงสักหน่อย อันนั้นมันสีน้ำตาลอมแดงต่างหาก
ตอนเตรียมอนุบาล ฉันไม่ยอมหลับกลางวันเหมือนคนอื่นเพราะอยากอ่านหนังสือ
ครูก็เลยให้ฉันอ่านหนังสือออกเสียงกล่อมให้เพื่อนๆ ในห้องหลับ ก็วิน-วินดีนะ เอาจริง
ตอนอายุสัก 7-8 ขวบ ฉันอินกับอะไรที่เป็นอียิปต์มากๆ
ฉันเลยตัดสินใจจะทำมือไขว้ไว้ตรงอกตอนนอน เผื่อว่าถ้าตัวเองตายไประหว่างหลับ จะได้ทำเป็นมัมมี่ได้ง่ายๆ เพราะอยู่ในท่าเตรียมพร้อมแล้ว
ตอนสัก 6 ขวบ ฉันตัดสินใจจะหนีไปอยู่ในป่า
แล้วแม่ก็ถามขึ้นมาว่าจะแพ็คกระเป๋าไปไหน ฉันเลยชวนแม่ไปอยู่ด้วย ฉันรักพ่อแม่นะ แต่เข้าใจมั้ยอะว่า มันก็มีบางทีที่อยากจะลองไปอาศัยอยู่ในต้นไม้สักพักไรงี้
ตอนประมาณ 5-6 ขวบ ฉันเขียนฟิคลูนีย์ทูนส์แล้ววาดภาพประกอบ…
เป็นตอนทวีตตี้โดนซิลเวสเตอร์จับได้ ฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วกิน พ่อชมฉันใหญ่เลยว่า เรื่องที่ฉันแต่งมันช่าง “เกินความคาดหมาย” มากๆ
เคยมีช่วงนึงที่ฉันตั้งใจว่า เวลาฉันมีปัญหา ฉันจะแก้ปัญหาด้วยการปีนต้นไม้
ยิ่งปัญหาใหญ่แค่ไหน ก็ปีนต้นไม้ต้นที่ใหญ่มากเท่านั้น แล้วถ้าปีนขึ้นไปถึงจุดที่สูงที่สุด ก็จะไม่มีใครหาเราเจอไง
นี่มันวิธีหนีปัญหาชัดๆ เลยจ้า คุณพี่
ตอนเด็กฉันอยากจะได้สัตว์เลี้ยงมากๆ
แล้วก็เคยเห็นว่าแม่ไก่จะนั่งบนไข่เพื่อฟัก ฉันเลยชอบขโมยไข่ไก่ในตู้เย็นไปซ่อนในที่อุ่นๆ ทั่วทั้งบ้านเลย ทั้งในรองเท้า บนเตียง และใต้เครื่องนำความร้อน
ตอน 5 ขวบ ฉันบอกพ่อแม่ว่า “ซานตาคลอสไม่มีจริงหรอก ใช่มั้ยคะ” แบบเป็นการสรุปน่ะ ไม่ใช่คำถาม
พ่อแม่ตอบกลับมาว่า “อย่าเอาไปบอกใครล่ะ”
แต่มันไม่ถูกต้องอะ ฉันเลยเอาไปบอกเพื่อนฉันทุกคน แล้วครอบครัวเราก็กลายเป็นครอบครัวคนร้ายกาจในสายตาเพื่อนบ้านไปเลย
ตอนที่สามีฉันยังเป็นเด็ก เขามีบางอย่างที่อยากจะพูดกับพ่อแม่ตอนกำลังกินข้าว
แต่พ่อแม่ของเขาบอกว่า ห้ามเขาพูดตอนมีอาหารเต็มปาก เขานิ่งคิดไปแป๊บนึงแล้วก็คายอาหารที่เคี้ยวอยู่ในปากออกมาบนจาน แล้วก็พูดสิ่งที่อยากจะพูด
ตอนหลังกฎห้ามพูดตอนอาหารเต็มปากก็ถูกเปลี่ยนเป็น “เคี้ยว กลืน แล้วค่อยพูด”
ตอน 10 ขวบ แม่พาฉันไปที่ไปรษณีย์
แม่สั่งฉันว่า “ซื้อแสตมป์ แล้วหย่อนบิลพวกนี้ลงในตู้ไปรษณีย์นะ” ฉันก็เลยเข้าไปซื้อแสตมป์ แล้วก็เอาบิลของแม่หย่อนลงตู้ไป….แต่ยังไม่ได้ติดแสตมป์นะ
ตอนฉันอายุ 12 ปี เด็กสมัยนั้นกำลังอินกับการโทรศัพท์ไปแกล้งคนอื่นมากๆ
ฉันรู้สึกแย่ที่ต้องพูดอะไรแย่ๆ ใส่คนอื่น ก็เลยชวนเพื่อนให้ร้องเพลง Lean on Me ให้ปลายสายฟัง แล้วบอกให้บริจาคเงินให้มูลนิธิช่วยเหลือเด็กผู้หิวโหยแทน
ตอนป.2 ฉันป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล แม่ก็เอาใจด้วยการบอกว่าให้ฉันเลือกของขวัญที่อยากได้
ฉันขอดิกชันนารีมาเล่มนึง แล้วเอามันติดตัวไปทุกที แถมนั่งอ่านระหว่างทานอาหารเย็นด้วย
แม่ฉันทำงานที่ลานสเกต ฉันเลยได้อยู่แถวนั้นอยู่ตลอด ตอนอายุได้ 7-8 ขวบ
ลูกค้าขาประจำชอบจ่ายเงินให้ฉันเพื่อให้ฉันไม่ไปกวนตอนเขาเล่นสเกตกัน ฉันได้เงินเยอะมากแล้วเอาไปใช้เล่นเกม-กินขนม คืนนึงแม่ดันจับได้ พร้อมหลักฐานเป็นเงิน 40 เหรียญ…
ฉันเคยแข่งยัดลูกปัดเข้าจมูกกับพี่สาวว่าใครจะยัดเข้าไปได้มากกว่ากัน
ฉันชนะ แต่ต้องไปหาหมอ ให้เขาใช้แหนบดึงลูกปัดออกมาจากจมูก…แต่ยังไงก็ชนะพี่อะนะ
ตอนฉันอายุ 4 ขวบ ฉันกับครอบครัวออกไปทานอาหารร่วมกับบาทหลวง
ตอนนั้นฉันอ่านหนังสือออกแล้วเลยเปิดเมนูแล้วบอกพนักงานว่า ฉันขอไวน์ขาว แม่ฉันนี่แทบจะเป็นลม นางบอกว่า “ไม่ ลูกไม่เอาไวน์ขาว!!” ก่อนที่ฉันจะถามกลับว่า “มันคืออะไร?”
หลวงพ่อหัวเราะจนแทบจะขาดใจตายเลย
ตอนปี 1986-1987 ฉันอายุประมาณ 9 ขวบ
ฉันโคตรเกลียด Helen Clark เลย (นายกรัฐมนตรีคนที่ 37 ของนิวซีแลนด์) เพราะตอนนั้นเธอกำลังจะได้เป็นนายกหญิงคนแรกของประเทศ ซึ่งฉันอยากจะให้ตัวเองได้เป็นมากกว่า
สมัยก่อนบ้านผมอยู่ติดกับสถานีตำรวจ
แล้วตอนเด็กๆ ผมแอบหลบออกจากบ้านไปนั่งเล่นที่ล็อบบี้ในสถานีตำรวจ แล้วพวกเขาก็ซื้อโค้กให้ผมดื่มด้วย พ่อแม่ก็จะแตกตื่นว่าผมหายไป ก่อนจะหาผมเจอหลังจากนั้นหลายชั่วโมง
แล้วผมก็บอกพ่อแม่ไปว่า “ผมปลอดภัยฮะ เพราะผมอยู่ในสถานีตำรวจ”
ตอนป.4 ห้องสมุดที่โรงเรียนมีบรรณารักษ์ที่ใจร้ายมากๆ
ฉันพิมพ์cแถลงการณ์ลงรายละเอียดข้อเสียของเธอยาวถึง 3 หน้ากระดาษ แล้วให้เด็กนักเรียน ป.3-5 60 คนช่วยลงชื่อสนับสนุน ส่งให้ครูใหญ่ของโรงเรียน
สุดท้ายบรรณารักษ์คนนั้นถูกไล่ออกเลย…
แล้วเพื่อนๆ ล่ะ เคยทำวีรกรรมที่บ่งบอกถึงตัวตนของตัวเองลงไปบ้าง
มาเล่าให้ฟังหน่อยสิ
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ที่มา BoredPanda
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น