CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

สตรีลุกฮือ ศาลเปรูยกฟ้องคดีข่มขืน อ้างผู้หญิงสวมชุดชั้นในสีแดงเพราะอยากมีเซ็กส์อยู่แล้ว

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีการตัดสินคดีหนึ่งในประเทศเปรู ที่ทำนักเคลื่อนไหวและผู้หญิงนับพันออกมาประท้วงตามท้องถนน พร้อมกับสวม “กางเกงชั้นในสีแดง” ไว้ที่ขาของพวกเธอ

 

 

การประท้วงในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการตัดสินของผู้พิพากษาคดีชายหนุ่มข่มขืนหญิงสาว ที่เกิดขึ้นในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง

กลับไปในเดือนมกราคม 2019 ได้มีหญิงสาววัย 20 ปี ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่ง ได้ออกมายื่นฟ้องร้องชายหนุ่มวัย 22 ปี ในคดีข่มขืนกระทำชำเรา

ตามเอกสารหญิงสาวระบุว่าเธอหมดสติไปในงานปาร์ตี้ หลังจากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาบนเตียงของชายหนุ่มในสภาพเปลือยกาย

 

 

หลังจากที่คดีความยืดยาวมาจนถึงตอนนี้ ทางผู้พิพากษาได้ตัดสินให้ชายหนุ่มไม่ผิดค่ะ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า “หญิงสาวยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์กับชายหนุ่ม เพราะเธอสวมชุดชั้นในลูกไม้สีแดง”

การตัดสินนี้เกิดขึ้นโดยผู้พิพากษา Ronald Anayhuaman Andia, Diana Jurado Espino และ Lucy Castro Chacaltana ที่พวกเขาได้กล่าวว่า เหยื่อบิดเบือนความจริง

เนื่องจากเหยื่อสวมชุดชั้นในสีแดงไปงานปาร์ตี้วันนั้น และผู้หญิงสวมชุดชั้นในสีแดงก็เพราะตั้งใจอยากมีเพศสัมพันธ์กันทั้งนั้น หนึ่งในคำตัดสินกล่าวเอาไว้ว่า

 

 

“บุคลิกของเธอ (เหยื่อ) ที่กล่าวอ้างว่าเป็นคนสงวนท่าที (ขี้อาย) ไม่ตรงกับชุดชั้นในที่เธอสวมใส่ในวันเกิดเหตุ

โดยปกติผู้หญิงจะสวมชุดชั้นในในโอกาสพิเศษที่นำไปสู่ความใกล้ชิดและทำให้รู้สึกประทับใจ ซึ่งแปลว่าฝ่ายหญิงเตรียมการหรือเต็มใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องหาอยู่แล้ว”

 

 

แน่นอนค่ะว่าการคำตัดสินในครั้งนี้ทำให้ผู้คนไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหล่าผู้หญิงจึงลุกฮือถือป้ายประท้วงกันหน้าศาลในเมืองอิกา

ไม่เพียงเท่านั้นพวกเธอยังสวมกางเกงชั้นในสีแดงเอาไว้ที่ขา เพื่อเป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ มีการร้องเพลง A Rapist in Your Path เพลงสำหรับการประท้วงของเหล่าเฟมินิสต์ ซึ่งบางคนออกมาถือป้ายที่กล่าวว่า

“ฟังนะผู้พิพากษา จงอย่าใช้ชุดชั้นในของฉันไปเป็นเหตุผลในการข่มขืน”

“ลูกไม้ก็คือลูกไม้ มันไม่ได้แฝงนัยอะไรเอาไว้เลย” 

 

 

ในตอนนี้ก็มีหน่วยงานต่างๆ ออกมายื่นคำร้องให้ศาลยกเลิกคำพิพากษานี้และให้หญิงสาวที่เป็นเหยื่อไปขึ้นศาลที่อื่น เพื่อความยุติธรรมของตัวเธอเอง

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: dailymail

Comments

ใส่ความเห็น