ทั่วโลกต่างตื่นตัวกับไวรัสกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีมาตการเฝ้าระวังและรับมือการอย่างหนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นการคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ การย้ำเตือนให้ประชาชนใส่หน้ากากป้องกัน พร้อมกับรักษาอนามัยอยู่สม่ำเสมอ
และด้วยความที่ต่างคนต่างก็กลัวไวรัสกันทั้งนั้น กลับกันพ่อหนุ่มชาวแคนาดานึกสนุกอยากโด่งดังแบบข้ามคืน จึงคิดแผนเล่นพิเรนทร์แกล้งคนในระหว่างโดยสารเที่ยวบินไปยังจาไมกา
https://twitter.com/zacharycollison/status/1224840303703724032
ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2020 นาย James Potok ชาวแคนาดาวัย 28 ปี ลุกขึ้นยืนขอความสนใจจากผู้โดยสารและลูกเรือ ในระหว่างเที่ยวบินจากโตรอนโตไปยังนครมอนเตโกเบย์ของสายการบิน WestJet
จังหวะในตอนนั้นเครื่องยังบินไม่ทันพ้นอเมริกา เขาก็ประกาศอย่างตั้งใจว่า “เพิ่งกลับมาจากหูเป่ย ใจกลางของไวรัสโคโรนา ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขอบคุณครับ”
พอเขาพูดจบหน้าตาผู้โดยสารคนอื่นก็เริ่มใจคอไม่ดีตาม ทันใดนั้นลูกเรือจึงรีบพาเขากลับไปนั่งที่เดิมพร้อมกับบังคับให้ใส่ถุงมือและหน้ากาก
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น กัปตันตัดสินใจเลี้ยวเส้นทางกลับตรงดิ่งไปที่สนามบินโทรอนโตเพียร์สัน พร้อมกับผู้โดยสารทั้งหมด 243 คน อันเป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยการควบคุมโรคระบาด
พอกลับถึงสนามบินปุ๊บ หน่วยแพทย์จึงเข้ามาตรวจหาเชื้อไวรัสในตัวนาย James ทันที ผลปรากฎว่าไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆ จนกระทั่งถูกส่งตัวต่อไปให้กับตำรวจทำการจับกุมด้วยข้อหาก่อกวนปั่นป่วนทำให้ไม่สงบ และจะต้องขึ้นศาลในวันที่ 9 มีนาคม 2020
อย่างไรก็ตามจากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแคนาดาครั้งแรก แรงจูงใจของนาย James นั้นตั้งใจแกล้งประกาศเพียงเพราะอยากดัง อยากให้เป็นกระแสไวรัล
ด้วยความที่ตนเองเป็นทั้งศิลปินฮิปฮอปในนาม Potok Philippe กับอินฟลูเอนเซอร์ในอินสตาแกรม ก่อนหน้าที่ก็เคยทำมาแล้วในไฟลท์เดินทางไปจาไมกา เพราะในทุกๆ ปีเขาจะบินไป 5 ครั้ง
แต่คราวนี้เขายอมรับเลยว่าเล่นไม่เข้าท่า ไร้รสนิยม คงจะดีกว่าถ้าเล่นประกาศว่ามีระเบิดหรืออาวุธติดตัว ซึ่งแน่นอนเขาหวังให้คนแตกตื่นตกใจ และไม่คิดว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายก็แค่อำเล่นเฉยๆ
ซึ่งภายหลังเจ้าตัวรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับอยากจะขอโทษอย่างสุดซึ้ง เนื่องจากสำนึกผิดที่ทำให้แผนเดินทางของคนอื่นพัง
รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสายการบิน ในฐานะคนที่ต้องเอนเตอร์เทนจะมีทั้งสิ่งที่ควรพูดและไม่ควรพูด และสิ่งที่ทำลงไปก็ควรจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดตั้งแต่แรก
ที่มา: peelpolice, theverge, businessinsider, citynews
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น