มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในอดีตนักโบราณคดีและนักสำรวจจะมีการค้นพบเครื่องปั้นดินเป็นจำนวนมากตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ ดังนั้นการที่จะมีเครื่องปั้นดินเผาที่นักวิทยาศาสตร์ไม่เข้าใจว่าทำขึ้นมาทำไมสักชิ้นมันจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่เราคิด
ซึ่งสำหรับประเทศเยอรมนี เครื่องปั้นดินเผาที่ในอดีตนักวิทยาศาสตร์สงสัยว่ามีการใช้งานอย่างไรก็คงจะไม่พ้นเครื่องปั้นดินเผาจากยุคสัมฤทธิ์และยุคเหล็กที่ถูกค้นพบในรัฐบาวาเรียแน่ๆ นั่นเพราะเครื่องปั้นดินเผาเหล่านี้มีรูปร่างหน้าตาที่แปลกกว่าเครื่องปั้นดินเผาที่อื่นๆ มาก
และแล้วเมื่อล่าสุดนี้เอง นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริสตอลก็ได้ตัดสินใจที่จะหาคำตอบของการใช้งาน เครื่องปั้นดินเผารูปร่างแปลกๆ จากรัฐบาวาเรียจนได้ และคำตอบที่พวกเธอได้ออกมาก็นับว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจเลยทีเดียว
นั่นเพราะเครื่องปั้นดินเผาที่เห็นนี้ ดูเหมือนว่าจะถูกออกแบบมาเพื่อป้อนนมเด็กเล็กและทารกโดยเฉพาะเลยนั่นเอง
อ้างอิงจากคุณ Julie Dunne นักเขียนหลักของงานวิจัย เธอและเพื่อนๆ พบกับความเป็นไปได้นี้ในตอนที่ตรวจสอบเครื่องปั้นดินเผาอายุราวๆ 2,500-3,200 ปีจากรัฐบาวาเรียและพบว่า
วัตถุโบราณพวกนี้มักมีร่องรอยของนมวัว นมแพะ หรือนมแกะอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อบวกกับขนาดที่เล็ก รูปร่างที่คล้ายสัตว์ และรูสำหรับเทของเหลวอันเป็นเอกลักษณ์ที่ส่วนหางสัตว์ของเครื่องปั้นดินเผา นักวิจัยก็นึกภาพเด็กๆ ดื่มนมจากมันได้ไม่ยาก
ภาพตัวอย่างการใช้งานเครื่องปั้นดินเผาที่นักวิจัยใช้อ้างอิง
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราสามารถระบุประเภทของอาหารที่ป้อนให้กับเด็กทารกยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้” คุณ Julie กล่าว “ฉันสามารถจินตนาการถึงเด็กก่อนประวัติศาสตร์ตัวเล็กๆ ได้รับหนึ่งในเครื่องปั้นดินเผาพวกนี้พร้อมกับนกข้างในแล้วหัวเราะ พวกเขาสนุกกับมัน เพราะพวกเขาชอบของเล่นเล็กๆ เช่นกัน”
นี่อาจจะเป็นงานวิจัยที่ฟังดูไม่น่าจะใช้เรื่องแปลก และทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์จึงใช้เวลานานเหลือเกินกว่าจะเข้าในการใช้งานง่ายๆ แบบนี้
สำหรับเรื่องนี้ คงต้องอธิบายไว้สักนิดว่าในอดีตนักโบราณคดีมักจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับบทบาทการใช้ชีวิตของเด็กในสังคมโบราณเท่าที่ควร และเครื่องปั้นดินเผาก็เป็นอะไรที่ถูกพบเยอะมากจนหลายชิ้นถูกมองข้ามไป
อย่างในกรณีนี้เองคุณ Siân Halcrow หนึ่งในทีมนักวิจัยได้อธิบายเสริมว่า “นี่นับว่าเป็นหลักฐานโดยตรงชิ้นแรกเลยว่านมของสัตว์ถูกบรรจุในภาชนะเช่นนี้ในการป้อนแก่เด็กเล็ก” ซึ่งมันเป็นอะไรที่สามารถแตกกิ่งก้านสาขาเป็นงานวิจัยอื่นๆ อย่างผลกระทบของการทานนมสัตว์ในเด็กก่อนประวัติศาสตร์ได้อีกมาก
“การขยายเลนส์การมองของเราให้ครอบคลุมทารกและเด็กๆ ในอดีตมีความสำคัญมากด้วยเหตุผลหลายประการ” คุณ Halcrow กล่าว “นั่นเพราะพวกเขานับว่าเป็นสัดส่วนที่สูงของประชากรในอดีต และหากสุขภาพและประสบการณ์ของพวกเขาไม่ดี มันก็อาจส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อการทำงานของสังคมได้เลย”
ที่มา allthatsinteresting, gizmodo
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น