นิวยอร์กไทม์วิเคราะห์ “ระเบิดเวลาในอินเดีย” เมื่อรัฐบาลล็อกดาวน์ แต่ประชาชนอดอยาก

จากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ของรัฐบาลอินเดีย ดูเหมือนว่าจะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมากมาย

โดยเฉพาะปัญเรื่องของการสั่งให้ล็อกดาวน์แทนที่ประชาชนจะอยู่แต่ในบ้าน แต่กลับกลายเป็นว่าแรงงานต่างถิ่นกลับฝ่าฝืนคำสั่งเดินทางกลับบ้านกันเป็นจำนวนมาก เพราะพวกเขาตกงานและไม่มีรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ

สื่อสำนักใหญ่อย่าง New York Times ก็เลยออกมาวิเคราะห์ว่ามาตรการล็อกดาวน์ของอินเดียนั้น จะทำให้ประชนอดอยาก และเป็นเหมือน ‘ระเบิดเวลา’

 

 

ตามรายงานระบุว่าจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายๆ เมืองทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดการอพยพของเหล่าคนงานต่างถิ่นที่เข้าไปทำงานในเมืองหลวง เพราะพวกเขาต้องหยุดงานและไม่มีรายเพื่อรองรับกับค่าใช้จ่าย

บางส่วนก็เลือกที่จะเดินทางกลับไปยังบ้านที่อยู่ในชนบท บางส่วนก็เลือกที่จะทำตามคำสั่งของรัฐบาลด้วยการไม่ออกไปไหน แต่พวกเขาจะทนแบบนี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่กันล่ะ?

“คุณอาจจะกลัวโรคระบาด เลยไม่ออกมาเดินตามถนน แต่ผมกลัวการหิวตายมากกว่าโคโรนาซะอีก” นาย Papu แรงงานจากกรุงเดลีกล่าว

 

นาย Papu

 

ขณะเดียวกันหลายๆ ประเทศทั่วโลกก็ใช้มาตรการล็อกดาวน์ในการป้องกันการระบาด แต่ว่าในประเทศอินเดียนั้นแตกต่างออกไป

เพราะอย่างที่รู้กันว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีประชากรหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในสลัมมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เสียด้วยซ้ำ

แถมยังเป็นประเทศที่มีประชากรคนไร้บ้านสูงเป็นอันดับที่ 1 ของโลกอีกด้วย จึงทำให้มาตรการล็อกดาวน์นั้นอาจจะเรียกว่า ‘ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง’

 

 

เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับความอดอยากจากมาตรการการช่วยเหลือที่ล่าช้าของรัฐบาล ที่เพิ่งจะออกมาประกาศมาตรการเยียวยาว่าจะทำให้สำเร็จภายในสัปดาห์นี้

กับความไม่แน่นอนของรัฐบาล ที่เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ที่รัฐบอกว่าจะมีรถรับส่งแรงงานไปยังต่างจังหวัด แต่พอถึงตอนบ่ายกลับเปลี่ยนคำสั่งใหม่บอกว่าให้ปิดการเดินทางข้ามระหว่างเมืองซะอย่างนั้น

ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดความสับสนขึ้น และมาตรการการลงโทษของตำรวจที่ดูรุนแรง และไร้เหตุผลก็เริ่มที่จะทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุบตีแรงงานที่กำลังอพยพกลับบ้าน

THIS- Scenes from Anand Vihar bus station. Disheartening.

Video courtesy: @furquansid #CoronaLockdown #MigrantsOnTheRoad #SocialDistancing

pic.twitter.com/w0wuURSYM5

— Zeba Warsi (@Zebaism) March 28, 2020

 

ลองไปฟังความคิดเห็นของเหล่าแรงงานที่ต้องหาเช้ากินค่ำกันดูสักหน่อย เราจะได้เห็นภาพความลำบากของพวกเขามากขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์คนงานต่างถิ่น 13 คนที่กำลังเดินอยู่บนทางด่วนของกรุงเดลี กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านเกิดของพวกเขาที่รัฐอุตรประเทศ

พวกเขาบอกว่าตอนที่ออกมาจากเดลี เขาไม่ได้ทานอาหารมาเกือบ 2 วันแล้ว เพราะต้องตกงานและไม่มีเงินติดตัวเลย

“มาตรการล็อกดาวน์นี้อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับพวกคนที่มีเงินนะ แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเราที่ต้องหาเช้ากินค่ำ” นาย Deepak Kumar วัย 28 ปี อดีตพนักงานขับรถบรรทุกกล่าว

ขณะเดียวกันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ทำกันอย่างเข้มข้น แต่ว่าวิธีการลงโทษพวกของเขานั้น มันค่อนข้างที่จะรุนแรงและไร้มนุษยธรรม

 

 

“พวกเขาปฏิบัติกับประชาชนราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์” นาย Ashwin Parulkar นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันวิจัยเชิงนโยบายในกรุงเดลีกล่าว

ขณะเดียวกันทางด้านของเหล่าโฮมเลสทั้งหลาย ก็ได้รับการดูแลจากองค์กรการกุศลต่างๆ ที่เอาอาหารมาแจกจ่ายในช่วงล็อกดาวน์

แต่ทว่าที่ไหนที่มีการแจกจ่ายอาหารฟรี ก็ย่อมกลายเป็นที่ที่มีคนพลุกพล่าน แต่ว่าพวกเขาจะเลือกอะไรได้ล่ะ?

“ตอนนี้กำลังเกิดแรงกดดันขึ้นอย่างมหาศาล เพราะผู้คนไม่สามารถออกมาเดินบนท้องถนนได้ และหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปผมคิดว่ามันจะระเบิดออกมา” นาย Nishu Tripathi วัย 29 ปี เจ้าหน้าที่จากองค์กรการกุศลกล่าว

“ทุกครั้งที่มีการแจกจ่ายอาหาร เราจะถูกรุมล้อมไปด้วยฝูงชน” เขากล่าวเสริม

องค์กรการกุศลของนาย Nishu เพิ่งจะแจกจ่ายอาหารให้กับคนไร้บ้านกว่า 8,000 คนในกรุงเดลี โดยเริ่มแจกทุกวันตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงวันพฤหัสที่มีการประกาศล็อกดาวน์

 

 

“อยู่ๆ ก็มีเสียงไซเรนดังขึ้น ตำรวจขับรถมาล้อมพวกเราตะโกนบอกว่า ‘ออกไปจากที่นี่!! กลับเข้าไปในบ้าน แยกตัวออกจากกัน เว้นระยะห่างด้วย!!’ แต่พวกเขาลืมไปรึเปล่าว่าคนเหล่านี้ไม่มีบ้านให้อยู่นะ” Nishu เล่า

“มีกลุ่มคนไร้บ้านกลุ่มหนึ่ง ในนั้นมีเด็กที่เป็นอัมพาต พวกเขากำลังเดินเข้ามาเอาซุป เลยโดนตำรวจฟาดด้วยแท่งไม้ไผ่ พร้อมตะโกนบอกว่า ‘ให้อยู่ห่างๆ กัน!!’”

“เด็กผู้ชายอายุราว 15 ปี ถูกฟาดเข้าที่ปาก จนเลือดกบปาก ทั้งๆ ที่พวกเขามาขออาหารกินเท่านั้น”

“มีคนตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า ‘เฮ้ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ? เขาแค่จะเดินมาหาอาหารกินเท่านั้นเองนะ ทำไมถึงทำกับพวกเราแบบนี้!?’” Nishu เล่าเสริม

 

 

ขณะเดียวกันสถานการณ์ในองค์กรการกุศลอื่นๆ เองก็ไม่ต่างกัน นาย Rick Chandael เจ้าหน้าที่ในอีกองค์กรการกุศลหนึ่งเล่าว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาแจกจ่ายอาหารตามปกติ

แต่พอมีการประกาศล็อกดาวน์แล้ว กลับมีคนมาลงทะเบียนรับอาหารเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยวันละ 100 คน

อย่างไรก็ตามมีการประกาศจากรัฐบาลแล้วว่าจะมีการเยียวยาโดยตั้งงบเอาไว้กว่า 720,000 ล้านบาท โดยจะมีการแจกจ่ายเงิน ของใช้ และอาหารให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์

 

ก็หวังว่าวิกฤตินี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ

 

ที่มา : nytimes