นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส เมื่อสามีภรรยาหย่าร้างกัน โดยที่ฝ่ายหญิงรู้สึกไม่พอใจอย่างมากเมื่อพบว่าอดีตสามีของเธอนั้นแยกทางไปเพื่อต้องการคบหากับหญิงอื่นที่เป็นคนใกล้ตัวของเธอเอง
เรากำลังพูดถึงผู้พิพากษาระดับสูงวัย 58 ปี (ไม่ระบุชื่อ) ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็ใช้ชีวิตแต่งงานตามปกติทั่วไปกับสามีและลูกสาวของเธอในเขต Hauts-de-Seine
นอกเหนือจากงานผู้พิพากษาแล้ว เธอยังเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับรัฐมนตรีคนหนึ่งอีกด้วย จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอหย่าร้างกับสามี เธอก็พบว่าแท้จริงแล้วเขาคนนั้นต้องการที่จะไปคบหากับน้องสาวของรัฐมนตรีคนดังกล่าว
การที่อดีตสามีหย่าร้างกับเธอเพื่อไปคบกับผู้หญิงที่เป็นน้องสาวของคนที่เธอทำงานด้วยนั้น มันได้กลายเป็นบาดแผลและความคับแค้นใจให้กับผู้พิพากษาหญิง
ความแค้นนั้นได้ทำให้เธอเกิดความคิดที่จะแก้แค้นเขาขึ้นมา และสิ่งที่เธอคิดจะทำก็คือ “การแอบแต่งงานกับอดีตสามีอีกครั้งโดยไม่ให้เขารู้ตัว”
ผู้พิพากษาหญิงได้สร้างเอกสารปลอมและบัตรประชาชนปลอมขึ้นมา จากนั้นก็ร่วมมือกับชายอีกคนให้แสร้งเป็นสามีของเธอ เพื่อทำให้การแต่งงานกับอดีตสามีเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม 2019
สำหรับการแอบแต่งงานนี้ มันมีขึ้นที่เมือง Saint-Denis แต่ว่าทุกอย่างก็ราบรื่นไปได้แค่แปปเดียว เพราะหลังจากนั้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ ผู้พิพากษาก็ถูกย้ายให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่เขตที่เธอเคยอาศัยอยู่กับอดีตสามี
เพียงไม่นานเพื่อนร่วมงานของเธอก็พบข้อมูลว่าเธอได้แต่งงานใหม่กับอดีตสามีของตัวเอง แล้วข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนรู้ถึงหูของชายผู้ไม่รู้มาก่อนเลยว่าไปแต่งงานกับเธออีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่
เรื่องนี้จึงนำไปสู่การฟ้องร้องแจ้งความ ผู้พิพากษาหญิงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวและสอบสวนถึงสาเหตุว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น
ผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพแต่โดยดี ซึ่งเธอให้การว่าที่ทำไปก็เพราะต้องการแก้แค้นอดีตสามีที่นอกใจเธอและหย่าร้างไปหาผู้หญิงที่เธอเองก็รู้จัก เธอจึงต้องการทำลายชีวิตเขา ทำให้เขาไม่สามารถแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้นได้
นอกเหนือจากตัวผู้ก่อเหตุเองแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมชายที่ปลอมเป็นอดีตสามีของเธอ รวมไปถึงลูกสาวของเธอเองที่ให้การร่วมมือกับแผนการที่เธอทำ
ภายหลังการจับกุมในเดือนธันวาคม ทั้งสามก็ได้ถูกปล่อยตัวออกมาโดยยังคงอยู่ในการควบคุมของศาล และเบื้องต้นผู้ก่อเหตุก็ถูกตัดสินให้มีความผิดข้อหา “ปลอมแปลงเอกสาร” และ “การใช้เอกสารทางราชการในทางที่ผิด”
ปัจจุบันเธอถูกปลดจากการเป็นผู้พิพากษาแล้ว และหลังจากนี้ก็จะต้องรอขึ้นศาลอาญาต่อไป ซึ่งโทษที่เธออาจได้รับนั้นอาจหนักถึงขั้นจำคุก 10 ปี และปรับอีกกว่า 150,000 ยูโร (ราว 5,300,000 บาท)
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Europe1 , OddityCentral , CloserMag
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น