หวังว่าเรื่องราวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถก้าวผ่านความยากลำบากในชีวิตไปได้ และอย่าลืมว่ายังมีหนทางอีกยาวไกลรอเราอยู่ข้างหน้า ขอเพียงแค่ว่าเราต้องอย่าหยุดฝันเท่านั้นเอง…
วันนี้ #เหมียวตะปู อยากจะพูดถึงเรื่องราวของ Kate Stanforth หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 25 ปี กับเส้นทางชีวิตอันแสนมืดมน แต่เธอคือคนที่จะไม่ยอมละทิ้งความฝันในการเป็นนักบัลเลต์มืออาชีพของตัวเองอย่างเด็ดขาด
เรื่องราวชีวิตของ Kate กับอุปสรรคที่พร้อมจะดับฝันของเธอ
https://www.instagram.com/p/B39JdLSAC7K/
ความฝันในวัยเด็ก
ตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้เพียงแค่ 8 ขวบ เธอก็มีความใฝ่ฝันว่าพอโตขึ้นจะต้องกลายเป็นนักบัลเลต์มืออาชีพให้จงได้ เด็กหญิงตัวน้อยจึงเริ่มที่จะเรียนรู้และฝึกซ้อมมันอย่างหนัก
“บัลเลต์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฉัน ทุกๆ วันฉันจะตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่เพื่อฝึกซ้อมก่อนไปโรงเรียน พอเลิกเรียนฉันก็จะฝึกซ้อมมันอีก แม้แต่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ด้วย”
Kate ในวัยเด็ก
จุดเปลี่ยนแรกของชีวิต
ในตอนนั้น หลายๆ คนต่างมองว่าเธอก็เป็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีความฝัน และตั้งใจทำมันอย่างสุดความสามารถ เชื่อว่าในอนาคตเธอจะต้องประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เธอเลือกเดินอย่างแน่นอน
แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องพังทลายลงในตอนที่เธออายุได้เพียงแค่ 14 ปี เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งแล้วพบว่าเธอไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ ให้กับการใช้ชีวิตอีกแล้ว…
“ฉันตื่นขึ้นมาและต้องคลานขึ้นบันไดไป ฉันไม่มีพลังงานพอที่จะลุกขึ้นเดินได้ด้วยตัวเอง ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย ฉันเหนื่อยเหลือเกิน”
https://www.instagram.com/p/BXgq-NUDwsQ/
โรคร้ายที่ไม่อาจรักษาได้
แพทย์วินิจฉัยว่าเธอมีอาการ Myalgic Encephalomyelitis หรือที่อาจรู้จักกันในชื่อ อาการอ่อนล้าเรื้อรัง เป็นความผิดปกติที่ยังคงไม่ทราบสาเหตุ และยังไม่มีการรักษาเฉพาะทางที่ทำให้หายขาดได้
อาการดังกล่าวส่งผลทำให้ Kate รู้สึกเหนื่อยล้าอยู่แทบจะตลอดเวลา เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรงจนถึงขั้นไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนเองได้ บางช่วงเวลาที่อาการหนักมากๆ เธอรู้สึกราวกับว่าตนเองเป็นอัมพาต ต้องนอนติดเตียง
ข่าวร้ายที่ว่านั้นสร้างความเสียใจให้กับทุกคน ครอบครัวยังคงพาเธอกลับไปหาหมออยู่เรื่อยๆ นานติดต่อกันหลายปี แม้รู้ดีว่ามันยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
นับแต่นั้นมา Kate จึงต้องไปไหนมาไหนด้วยวีลแชร์
ถึงอย่างนั้น ความฝันก็ยังคงอยู่
แม้จะรู้ตัวเองดีว่าป่วยเป็นโรคร้าย แต่เด็กหญิงก็ยังคงไม่หยุดฝัน เธอยังคงมีความหวังว่าสักวันจะกลับมาแข็งแรง เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้าบนหนทางของการเป็นนักบัลเลต์
ระยะเวลาค่อยๆ ผ่านไปช้าๆ ในขณะที่เธอก็พยายามฝึกร่างกายให้มากที่สุด แต่สิ่งที่เธอพอทำได้ในเวลานั้นก็คือการยืนเฉยๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง
https://www.instagram.com/p/B1DiEeKgm6g/
ดั่งเทียนที่พอติดไฟขึ้นมา แต่กลับต้องถูกลมพัดดับไปอีกครั้ง
ผ่านไปเพียงไม่กี่ปี ในช่วงที่ Kate ยังรู้สึกว่าตนเองยังพอมีหวัง แต่แล้วหัวใจของเธอก็กลับต้องแตกสลายอีกครั้ง เมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรค Ehlers-Danlos Syndrome หรือที่รู้จักในชื่อ โรคหนังยืดผิดปกติ
อาการจากโรคที่ว่านี้ส่งผลทำให้ร่างกายของเธอเป็นรอยฟกช้ำได้ง่าย ข้อต่อสามารถหักงอได้มากกว่าคนปกติ และคงไม่ต้องบอกเลยว่า มันได้ส่งผลทำให้เส้นทางการเป็นนักบัลเลต์ของเธอนั้นดับวูบไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว
“พอมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันรู้ในทันทีเลยว่ามันจะไม่มีทางดีขึ้นได้ เส้นทางการเป็นนักบัลเลต์ของฉันคงจบลงแต่เพียงเท่านี้ ฉันไม่มีทางเป็นนักเต้นมืออาชีพได้หรอก”
ทว่าชีวิตจงอย่าหยุดฝัน
ถึงแม้ว่าเธอจะมีอาการร้ายแรงดังที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด แต่ Kate ก็ยังคงไม่หยุดที่จะสร้างเส้นทางแห่งความหวังครั้งใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
เพราะต่อให้ความฝันในการเป็นนักบัลเลต์มืออาชีพของเธอจะต้องจบลง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะสร้างความฝันใหม่ๆ ขึ้นมาอีกไม่ได้ ความแข็งแกร่งในจิตใจของเธอพยายามที่จะกระตุ้นร่างกายอันอ่อนล้าอยู่เสมอ
จนกระทั่งวันหนึ่งเธอสามารถลุกเดินได้อีกครั้ง แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
ว่าแต่ความฝันครั้งใหม่ของเธอคืออะไรกันล่ะ?
สำหรับความฝันครั้งใหม่ของ Kate นั้น มันก็คือการเติมเต็มความใฝ่ฝันให้กับเด็กคนอื่นๆ นั่นเอง เพราะปัจจุบันเธอคืออาจารย์สอนบัลเลต์
Kate ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรกับการเริ่มจากเป็นผู้ช่วยครู จนกระทั่งสอบผ่านเป็นครูสอนบัลเลต์ได้สำเร็จ โดยที่เธอจำเป็นต้องนั่งวีลแชร์ขณะสอน
ลักษณะการสอนของเธอ
หลังจากที่เธอสอบผ่าน คนรู้จักหลายๆ คนของเธอก็พยายามติดต่อให้ Kate ไปสอนเด็กๆ ตามโรงเรียน ตามสตูดิโอบัลเลต์ต่างๆ ซึ่งในแต่ละคลาสนั้นเธอจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการสอนแต่ละคลาส
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินเธอจากภาพที่เห็น มองว่าการที่เธอนั่งวีลแชร์สอนบัลเลต์นั้นมันไร้ประสิทธิภาพ เธอไม่ควรที่จะมาอยู่ในจุดจุดนี้ได้
แต่ Kate ก็ไม่ได้เก็บเอาคำวิจารณ์เหล่านั้นมาคิดให้ปวดหัว เธอรู้สึกเพียงแค่ว่าการเต้นนั้นยังคงปิดกั้นโอกาสของคนจำนวนมากอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือผู้พิการหรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงแบบเธอ
“ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงโลกของการเต้นได้ นั่นคือสิ่งที่สังคมกำหนดให้เป็นอยู่ทุกวันนี้ และฉันคิดว่ามันไม่ควรเป็นอย่างนั้นเลยจริงๆ”
https://www.instagram.com/p/B03tQuRgmvb/
และถึงแม้ว่าเธอจะต้องเจอกับคำสบประมาทมากมาย แต่ Kate ก็จะยังคงทำหน้าที่เป็นอาจารย์บัลเลต์ต่อไป และเมื่อไหร่ที่มีเวลาว่างเธอก็จะฝึกฝนการเต้นของตัวเองไปด้วยนิดหน่อย
ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา ทำให้เรื่องราวของเธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ให้พวกเขาได้รับรู้ว่าต่อให้คุณจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเส้นทางแห่งความฝันและความหวังก็จะยังคงเปิดรอคุณอยู่เสมอ
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Metro , katestanforth
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น