นับว่าเป็นข่าวภัยพิบัติที่หลายๆ ฝ่ายให้ความสนใจอีกข่าวไปแล้ว เมื่อในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหลายสำนัก ได้มีการออกมารายงานว่า
ในพื้นที่ ผืนป่าไซบีเรียของประเทศรัสเซีย ได้เกิดเหตุไฟป่าขนาดใหญ่ขึ้น โดยในปัจจุบันไฟป่าดังกล่าวได้ทำลายพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตร และรุนแรงมากจนเห็นได้จากในอวกาศเลย
เหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ ถูกตรวจพบเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา โดยมันมีศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ครัสโนยาสค์ ทรานส์ไบคาล และอามูร์ ซึ่งถือว่ากว้างมากจนเรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์วิกฤตเลย
อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ไฟป่าที่เกิดขึ้นนั้น เป็นไปได้ว่าจะมีต้นเหตุได้หลายอย่าง แต่ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เหตุผลหลักๆ ของไฟป่าในครั้งนี้ น่าจะมาจากภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง และสถานการณ์การกักตัวคนเป็นหลัก
กล่าวคือในช่วงเวลาที่ผู้คนในรัสเซียถูกสั่งให้อยู่ในบ้านเช่นนี้ มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่ทนไม่ไหว และตัดสินใจออกไปตั้งแคมป์ “กักตัว” ในป่าแทน อย่างไรก็ตามด้วยความประมาท บวกกับการที่น่าจะมีคนเข้าไปจุดไฟในป่าจำนวนมากกองไฟเหล่านั้น ก็ได้ลุกลามไปจนเกิดเป็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น
“ผู้คนตัดสินใจไปกักตัวในป่า และลืมกฎความปลอดภัยทางอัคคีภัยไป” คุณ Sergei Anoprienko หัวหน้าสำนักงานป่าไม้แห่งชาติ (Rosleskhoz) กล่าว “ในบางภูมิภาคอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปถึง 30 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนบางกลุ่มไม่สามารถอยู่ในอพาร์ตเมนต์ได้”
“พวกเขากรูกันออกไปข้างนอก และด้วยเหตุนี้เราจึงต้องพบกับจุดความร้อนจำนวนมาก ที่เกิดจากไฟฟ้าอย่างที่เห็น”
แน่นอนว่าเหตุการณ์ไฟป่านั้น สำหรับประเทศใหญ่ๆ อย่างรัสเซียแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และอาจเกิดขึ้นได้แม้จะไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ อย่างไรก็ตามไฟป่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็ถือว่าใหญ่โตและส่งผลกระทบกว่าที่ผ่านๆ มาอย่างเห็นได้ชัด
เพราะอย่างในพื้นที่ครัสโนยาสค์นั้น เหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ ถือว่ามีความรุนแรงกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา กว่า 10 เท่าเลยทีเดียว
ที่มา thesun, sciencealert และ businessinsider
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น