เคยได้ยินเรื่องเล่าของสัตว์ร้ายในตำนานของอย่าง “สกินวอล์กเกอร์” กันมาก่อนไหม?
นี่เป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าขานกันในชาวอินเดียนแดง เช่นเผ่านาวาโฮ และเกี่ยวข้องกับมนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายจากเวทมนตร์หรือคำสาป ด้วยการนำหนังสัตว์มาสวม และออกอาละวาดทำร้ายทั้งคนและสัตว์ไม่เลือกหน้า จนกลายเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในอดีต
ปีศาจตัวนี้มีที่มาและต้นกำเนิดแตกต่างกันไปตามเรื่องเล่าของชาวอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ ตั้งแต่คนที่ใช้เวทมนตร์ในทางที่ผิด พิธีกรรมเปลี่ยนคนเป็นสัตว์ หรือแม้แต่คนที่ถูกหลอกให้กินยาที่มีคำสาปร้าย แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหน สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะเป็นปีศาจผู้มีพลังของสัตว์อยู่ดี
สกินวอร์กเกอร์โดยมากแล้วจะมีลักษณะเป็นมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์ หรือคนที่กลายเป็นสัตว์ป่าขนาดใหญ่โดยตรง ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งหมาป่า หรือแม้แต่หมี พวกมันถูกระบุไว้ว่ามีความว่องไวเหนือมนุษย์ ซ่อนตัวเก่ง และฉลาดพอจะล่อเหยื่อไปสังหารได้ด้วยกำลังกายเหนือมนุษย์
สกินวอร์กเกอร์นั้นแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล่าของชาวอินเดียนแดงมาเป็นเวลานาน แต่พวกมันกลับเพิ่งจะเข้ามาเป็นหนึ่งในเรื่องสยองขวัญของสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 1996 ผ่านทางรายการโทรทัศน์เท่านั้น
โดยในเวลานั้นสื่อของต่างประเทศได้มีการนำเสนอเรื่องราวของครอบครัวในรัฐยูทาห์ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งต้องพบเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง
หนึ่งในเรื่องราวที่คนในครอบครัวนี้พบนั้น ถูกระบุไว้ว่าเป็นสุนัขหมาป่าขนาดยักษ์ ที่ตัวใหญ่กว่าหมาป่าธรรมดาถึง 3 เท่า แถมยังมีดวงตาสีแดงและไม่ยอมตายแม้ถูกยิงในระยะใกล้ถึง 3 ครั้ง
ฟาร์มสกินวอร์กเกอร์ (Skinwalker Ranch) สถานที่เกิดเหตุพบเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง
.
นับตั้งแต่รายการในวันนั้นก็มีคนมากมายที่ออกมารายงานว่าตนเองก็พบสกินวอล์กเกอร์ในรูปแบบต่างๆ เช่นกัน จนทำให้เรื่องราวที่เดิมทีแล้วอาจจะถูกบอกปัดได้ว่าเป็นแค่เรื่องเล่า กลายเป็นสิ่งที่มีคนตามหากันอย่างจริงจังไป
และก็เป็นความโด่งดังในจุดนี้เอง ที่ทำให้ผู้หลงใหลในสิ่งเหนือธรรมชาติจำนวนมาก ตัดสินใจที่จะออกตามหาสกินวอล์กเกอร์อย่างจริงจังในช่วงปี 1996-1997 โดยเฉพาะในพื้นที่ฟาร์มสกินวอร์กเกอร์ซึ่งมีคนถึงกับลงทุนซื้อที่ดินรอบๆ ไว้เพื่อตามหาสัตว์ร้ายตัวนี้โดยเฉพาะเลย
และก็แน่นอนว่าการออกตามหาในครั้งนี้ก็ย่อมจะนำมาซึ่งเรื่องเล่าอื่นๆ เกี่ยวกับสกินวอล์กเกอร์อีกเป็นภูเขา
หนึ่งในภาพที่ถูกอ้างว่าเกี่ยวข้องกับสกินวอล์กเกอร์
(ภาพเดียวกันนี้ในบางครั้งก็ถูกอ้างว่าเป็นเวนดิโกด้วย)
แต่แม้ว่าเราจะมีรายงานการพบเห็นสกินวอล์กเกอร์มากมายแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครเลยที่จะสามารถหาหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันของสัตว์ร้ายตัวนี้มาแสดงให้โลกเห็นได้ ทำให้เรื่องราวของสกินวอล์กเกอร์ที่น่าหวาดกลัวเอง ก็จะยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องราวสุดลึกลับในใจของหลายๆ คนไปอีกนานแสนนาน
ที่มา allthatsinteresting, history
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น