เมื่อเราพูดถึงของอย่าง “กระโปรง” และ “รองเท้าส้นสูง” เชื่อว่าด้วยความเคยชิน หลายๆ คนก็คงจะนึกถึง “ผู้หญิง” ขึ้นมาเป็นความคิดแรกๆ
อย่างไรก็ตามด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าแนวคิดเหมารวมเช่นนี้ก็อาจจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงแล้วเช่นกัน
นั่นเพราะเมื่อล่าสุดนี้เองเราได้มีชายในเยอรมนีคนหนึ่ง ที่ออกมาเคลื่อนไหวทำลายแนวคิดเหมารวมนี้แล้ว ด้วยการเลือกที่จะแต่งกายด้วยกระโปรงและรองเท้าส้นสูงเสมอ
และภาพที่ออกมานั้นก็เป็นตัวอย่างที่ดีเลยว่ากระโปรงและรองเท้าส้นสูง ก็อาจจะเข้ากับผู้ชายแบบพอดิบพอดีเลยได้เหมือนกัน
.
ชายคนนี้มีชื่อว่า Mark Bryan วิศวกรหุ่นยนต์ชาวอเมริกัน แต่ไปอาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี ผู้ตัดสินใจใส่กระโปรง โดยบอกว่า ทำเช่นนี้เพื่อท้าทายการเหมารวมทางเพศที่เราเห็นได้ทุกวัน
.
เขาบอกว่าตนเองได้แรงบันดาลใจ ในการแต่งตัวเช่นนี้มาจากการที่ เขาพบว่ากางเกงมีสีให้เลือกน้อย เมื่อเทียบกับกระโปรง ที่มีสีให้เลือกทั้ง แดง เขียว ฟ้าสว่าง หรือแม้แต่ลายดอกไม้
.
.
.
“ผมแต่งตัวแบบนี้เพราะผมทำได้ เพียงแค่ที่จะแตกต่าง” คุณ Mark Bryan กล่าว
โดยเขาได้รับการสนับสนุนแบบเต็มที่จากทั้งลูกสาว ภรรยาที่แต่งงานกันมาแล้ว 11 ปี ถึงขนาดที่คุณภรรยามักจะเลือกกระโปรงให้เขา ในขณะที่ลูกสาวบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าอยากยืมรองเท้าจากพ่อเลย
.
.
.
เมื่อถามถึงความรู้สึกเวลาใส่กระโปรง คุณ Mark Bryan ก็บอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกต่างจากปกตินัก
แน่นอนว่า หากอยู่ในวันที่อากาศหนาวหรือลมแรงร่างกายอาจจะรู้สึกแตกต่างอยู่บ้าง ในขณะที่เมื่อสวมส้นสูงเขาจะรู้สึกสูงขึ้นไปอีก
แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกนี้ก็ทำให้เขารู้สึกว่า “มีพลัง” ด้วยเหตุผลบางประการเช่นกัน
.
.
.
คุณ Mark เล่าต่อว่าเขามักจะซื้อส้นเท้าส่วนใหญ่ผ่านระบบออนไลน์เพื่อที่จะได้ลองใช้ที่บ้าน โดยตามปกติเขาจะสวมชุดท่อนบนเป็นของผู้ชาย ในขณะที่ท่อนร่างเป็นกระโปรง
ซึ่งเขาและมีรองเท้าโปรดเป็น Stiletto สูง 5 นิ้ว และปัญหาเพียงข้อเดียวของการแต่ชุดแบบนี้ ก็คือ เขาจะไม่ค่อยชอบการเดินบนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอนัก
เนื่องจากส้นของรองเท้าอาจจะตกลงหลุมหรือร่องและทำให้เขาเสียศูนย์
.
.
และทั้งนี้เอง เมื่อถูกถามถึงผลตอบรับของคนรอบข้างต่อการแต่งกายของเขา คุณ Mark ก็บอกว่า เขามักจะถูกชมโดยผู้หญิงอายุราวๆ 30-40 ปีเสมอๆ
แต่มันก็ค่อนข้างน่าเสียดายเลย ที่ผู้ชายส่วนใหญ่แม้จะชอบถามว่าทำไมเขาถึงแต่งตัวเช่นนี้
แต่กลับไม่ค่อยมีใครชมการแต่งกายของเขาเลย
.
ที่มา boredpanda
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น