ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ‘การเหยียดศาสนา’ นั้นก็ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก และเป็นปัญหาที่ไม่ควรถูกมองข้ามอย่างมาก ยิ่งเมื่อมันลามไปถึงการปลูกฝังความคิดของเด็กๆ ในปัจจุบันด้วยแล้ว
ยกตัวอย่างกรณีที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในสื่อออนไลน์ต่างๆ เมื่อเด็กชายชาวยิววัย 12 ปี ถูกบังคับให้คุกเข่าลงไปจูบรองเท้าเด็กชายชาวมุสลิม ก่อนภาพนี้จะถูกแชร์ออกไปทั่วโลกโซเชียล
ภาพดังกล่าว
จากการรายงานของสำนักข่าวต่างๆ ในวันที่ 3 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา กล่าวว่าเด็กชายทั้งสองคนในภาพนั้นเป็นนักเรียนของโรงเรียน Cheltenham Secondary College ประเทศออสเตรเลีย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการที่เด็กชายชาวยิวถูกเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ รุมกลั่นแกล้ง ทั้งถูกต่อย ถูกทำร้ายร่างกายสารพัด ซึ่งหลายฝ่ายกล่าวว่ามันเป็นผลมาจากความคิด ‘การต่อต้านยิว’ (Anti-Semitic)
เด็กชายวัย 12 ถูกเด็กคนอื่นๆ ล้อมเอาไว้และถูกบังคับให้จูบรองเท้าของเด็กชายชาวมุสลิมอย่างที่เห็นในภาพ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่เป็นแม่อย่างมาก
ความไม่พอใจนั้นแบ่งได้เป็น 2 เหตุผล หนึ่งคือเธอไม่พอใจในพฤติกรรมของเด็กๆ ที่รุมกลั่นแกล้งลูกชายของเธอ ซึ่งในส่วนนี้เธอก็ได้พูดคุยกับทางผู้ปกครองของเด็กๆ เหล่านั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ฉันพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กๆ เหล่านั้น และพวกเราก็เข้าใจตรงกันว่าไม่อาจปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ จำเป็นที่จะต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชาวยิวและชาวมุสลิม มากกว่าที่จะสร้างความคิดแตกแยกแบบนี้”
แต่อีกเหตุผลที่ทำให้เธอรู้สึกไม่โอเคอย่างมากเลยก็คือ การที่โรงเรียนและทางกระทรวงศึกษาได้ออกมาปฏิเสธการรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า “มันเกิดขึ้นที่สวนสาธารณะ ไม่ได้เกิดขึ้นในเขตโรงเรียน”
“ฉันมองว่าอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเรื่องนี้คือทางโรงเรียนและกระทรวงศึกษา ซึ่งไม่คิดที่จะปกป้องลูกชายของฉันเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นก่อนก่อเหตุหรือแม้แต่หลังเกิดเหตุก็ตาม”
ล่าสุด แม่ของเด็กทั้งสองฝั่งได้ตัดสินใจพาลูกๆ ออกจากโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียน Hawthorn West Primary ประเทศออสเตรเลีย เป็นการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นกับเด็กชายชาวยิววัย 5 ขวบ
เขาต้องเจอกับการถูกเพื่อนๆ ในห้องรุมล้อเลียนเรื่อง “ขลิบอวัยวะเพศ” ทำให้ไม่กล้าเข้าห้องน้ำ และยอมที่จะปล่อยให้ตัวเองฉี่ราดในห้องเรียนเสียแทน
การถูกกลั่นแกล้งยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เพราะเพื่อนๆ ต่างด่าทอเขาด้วยถ้อยคำเหยียดชาวยิว อาทิเช่น “ไอ้ยิวโสโครก” หรือ “ไอ้แมลงสาบชาวยิว” เป็นต้น
ในตอนแรก ทางโรงเรียนไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือเด็กคนนี้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งในภายหลังพวกเขากล่าวว่า “ทางโรงเรียนไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
ต่อมา พวกเขาก็พยายามที่จะแก้ปัญหาด้วยการมีห้องน้ำส่วนตัวชั่วคราวสำหรับเด็กคนนี้ แต่การจัดห้องน้ำแยกให้นั้นก็สามารถแก้ปัญหาได้เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นเอง
Barbara Crowe ครูใหญ่ของโรงเรียน เธอได้ออกมากล่าวขอโทษต่อผู้ปกครองของเด็กที่ถูกกลั่นแกล้ง
“นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้และมันก็กลายเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายของเด็กชาย ซึ่งเราก็รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้”
ถึงอย่างนั้น ผู้เป็นแม่ก็ได้ออกมาพูดกับทางโรงเรียนว่า…
“ทำไมพวกคุณถึงไม่ยอมรับว่านี่มันเกิดจาก ‘ความคิดต่อต้านยิว’ และพูดถึงมันอย่างตรงไปตรงมา? มันไม่ใช่การกลั่นแกล้งทั่วๆ ไป มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่ต่างศาสนากัน”
ท้ายที่สุดแล้ว คุณแม่จึงตัดสินใจพาลูกชายวัย 5 ขวบของเธอออกจากโรงเรียนและให้เขาได้เรียนหนังสือที่บ้านเสียแทน เพื่อหวังว่าเด็กชายจะไม่ต้องเจอกับอะไรแบบนี้อีก
ทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ แสดงให้เห็นถึงปัญหาการเหยียดศาสนาที่รุนแรง มันแสดงให้เห็นว่าความคิดที่ถูกปลูกฝังไปให้กับเด็กๆ นั้นส่งผลต่อพฤติกรรมที่เลวร้ายเพียงไหน ซึ่งเรื่องนี้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ควรช่วยกันแก้ไขอย่างจริงจัง
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น