CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ย้อนรอยค่ายมรณะ “โซบีบอร์” การลุกฮือต่อต้านของนักโทษชาวยิว แหกคุกเอาชีวิตรอด

เคยได้ยินเรื่องราวของค่ายมรณะชื่อ “โซบีบอร์” กันมาก่อนไหม? มันคือหนึ่งในค่ายกักกันจำนวนมาก ที่นาซีใช้งานในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

แต่ต่างไปจากค่ายกักกันอื่นๆ อย่างดาเชาหรือเอาช์วิทซ์ ค่ายมรณะโซบีบอร์ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อ “กักกันนักโทษ” แม้แต่น้อย กลับกันหน้าที่ของค่ายโซบีบอร์นั้นมีเพียงสิ่งเดียว นั่นคือการรมแก๊สพิษสังหารนักโทษเพียงอย่างเดียว

 

 

ในช่วงเวลาที่เรียกกันว่า “ฮอโลคอสต์” นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่ามีชาวยิวกว่า 350,000 รายถูกส่งไปจบชีวิตลงที่ค่ายโซบีบอร์ จนกระทั่งในวันที่ชาวยิวตัดสินใจลุกฮือขึ้น และต่อต้านความโหดร้ายที่ตนได้รับ

อ้างอิงจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ค่ายโซบีบอร์นั้น ถูกสร้างขึ้นในฐานะส่วนหนึ่งของ ยุทธการไรน์ฮาร์ด (Operation Reinhard) ออกแบบมาเพื่อโยกย้ายและสังหารชาวยิวในโปแลนด์เมื่อปี 1941

โดยในยุทธการนี้ นาซีได้สั่งสร้างค่ายมรณะสามแห่งในโปแลนด์เพื่อสังหารชาวยิวจำนวน 2 ล้านคนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ภาพถ่ายทางอากาศในอดีตของค่ายโซบีบอร์

 

ค่ายโซบีบอร์เริ่มทำการรับคนจากสลัมในโปแลนด์ผ่านทางรถไฟทันทีที่สร้างเสร็จในปี 1942 ในขณะที่ตัวสลัมเองก็ค่อยๆ โดนเผาทิ้งโดยเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ ของนาซี

ค่ายโซบีบอร์ทำงานสังหารชาวยิวอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่มีใครรู้และแทบไม่มีบันทึกเหลืออยู่ไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 14 เดือนตุลาคมปี 1943 เมื่อกลุ่มนักโทษที่รอการประหารร่วมร้อย ตัดสินใจที่จะร่วมมือกันหนีออกไปจากค่าย

 

ภาพถ่ายทางอากาศของซากค่ายโซบีบอร์ที่เพิ่งถูกค้นพบ

 

เหตุผลที่ทำให้นักโทษคิดหนีออกจากค่ายนั้น เชื่อว่ามาจากการที่พวกเขาได้ยินข่าวลือ จากเจ้าหน้าที่ว่านาซีคิดจะเผาค่ายนี้ไปพร้อมๆ กับนักโทษเพื่อทำลายหลักฐานอาชญากรรมสงครามนั่นเอง

โดยการลุกฮือในเวลานั้น ถูกนำทีมโดย Leon Feldhendler ผู้นำทางการเมืองของ Zolkiew และ Alexander Pechersky อดีตทหารโซเวียต-ยิว ที่เพิ่งมาถึงค่าย ซึ่งถูกยกเว้นการการรมแก๊สในทันทีด้วยการหลอกเจ้าหน้าที่ว่าเขาทำงานช่างไม้เป็น

 

นักโทษบางส่วนที่มีส่วนร่วมในการแหกค่าย

 

พวกเขานำนักโทษกว่า 600 คนบุกฝ่าการป้องกันของค่ายโซบีบอร์ มีทั้งทุ่นระเบิด ลวดหนาม และรั้วไฟฟ้า แต่ในขณะที่ Alexander สังหารเจ้าหน้าที่ SS ไปกว่า 11 คน นักโทษส่วนใหญ่กลับต้องเสียชีวิตไปจากการหนีครั้งนี้

คุณ Thomas “Toivi” Blatt หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากค่ายเล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า…

“มันมีศพอยู่ทุกที่เลย เสียงปืนไรเฟิล ระเบิด และเสียงปืนกลดังสนั่นหู พวกนาซียิงมาจากระยะไกล ในขณะที่ในมือเรามีเพียงมีดทำเองและขวานเท่านั้น”

 

Thomas Blatt ผู้รอดชีวิตจากค่ายโซบีบอร์

 

ในท้ายที่สุดแล้ว นักประวัติศาสตร์ก็คาดการว่า มีนักโทษประมาณ 300 รายที่หนีรอดออกมาจากคุกในวันนั้น อย่างไรก็ตามคนที่อยู่รอดจริงๆ จนจบสงคราม ไม่ถูกจับหรือสังหารเสียก่อนนั้น มีเพียงแค่ 47 คนเท่านั้น

ส่วนตัวค่ายโซบีบอร์และคนที่เหลืออยู่นั้น ในอีกไม่กี่วันต่อมาก็ถูกนาซีเผาทิ้งอย่างที่กลุ่มนักโทษแหกคุกกลัวจริงๆ และเรื่องราวของค่ายโซบีบอร์ก็ “ดูเหมือน” จะหายไปจากประวัติศาสตร์หลังจากนั้น

 

นักโบราณคดีตรวจสอบชิ้นส่วนกระดูกในหญ้าที่บริเวณห้องรมแก๊สของค่ายโซบีบอร์

 

อย่างไรก็ตามเมื่อมีชาวยิวหนีออกมาจากค่ายได้เช่นนี้ แน่นอนว่าความพยายามในการซ่อนหลักฐานอาชญากรรมสงครามในครั้งนี้ย่อมไม่เป็นไปตามที่นาซีหวังอย่างแน่นอน และเรื่องราวของพวกเขาเองก็จะถูกจดจำไปอีกนานแสนนานเลย

 

 

ที่มา allthatsinteresting และ Holocaust Encyclopedia


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น