หากเรายังคงจำกันได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสการพูดคุยกันในโลกอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับเรื่องราวความมหัศจรรย์ของร่างกายมนุษย์ที่ว่า คนบางกลุ่มไม่มีความสามารถในการ “พูดในใจ”
(อ่านข่าวเก่าได้ที่ ชาวเน็ตแปลกใจ คนบางกลุ่มไม่ได้ “พูดในใจ” กลายเป็นเรื่องพูดคุยกระแสโซเชียล)
แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปได้ราวๆ หนึ่งเดือน ผู้คนบนโลกอินเทอร์เน็ตก็ต้องพบกับเรื่องชวนแปลกใจกับความสามารถที่แตกต่างกันของมนุษย์อีกครั้ง เมื่อในคราวนี้ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งออกมาบอกว่า
ส่วนหนึ่งของประชากรมนุษย์สามารถควบคุมเทนเซอร์ ทิมพาไน (Tensor tympani) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อในหูได้
ซึ่งการเกร็งกล้ามเนื้อตัวนี้จะสร้างการสั่นสะเทือนและเสียงในหูขึ้น โดยเสียงดังกล่าวมักจะถูกอธิบายว่าเป็นเสียงครืนๆ
A part of the human population can voluntarily control the tensor tympani, a muscle within the ear. Contracting this muscle produces vibration and sound. The sound is usually described as a rumbling sound https://t.co/FjD36qFACU pic.twitter.com/ianKb60EK8
— Massimo (@Rainmaker1973) February 17, 2020
แน่นอนว่าเช่นเดียวกับการที่คนบางคนไม่ได้ยินเสียงในใจ คนที่มีความสามารถในการ “ทำเสียง” แบบนี้ จะไม่ทราบว่าคนอื่นๆ ทำเสียงแบบตัวเองไม่ได้ ในขณะที่คนที่ทำเสียงดังกล่าวไม่ได้ก็มักจะไม่ทราบเช่นกันว่ามีคนที่ทำเสียงแบบนี้ได้อยู่ในโลกด้วย
อ้างอิงจากเหล่าชาวอินเทอร์เน็ตผู้ที่มีความสามารถในการทำเสียงในหูนั้น จะสามารถทำเสียงดังกล่าวได้ด้วยการเกร็งใบหน้าในมุมแปลกๆ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงตั้งแต่ระดับเสียงเหมือนอะไรสั่นธรรมดา ไปจนเสียงคล้ายท้องฟ้าเวลามีฟ้าร้องเลย
“สำหรับฉันแล้ว มันฟังดูเหมือนพายุฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่” หนึ่งในผู้ใช้ทวิตเตอร์กล่าว “เสียงแบบสายฟ้าที่แลบไปมาบนเมฆตลอดไป โดยมีเพียงแสงของสายฟ้าเล็กๆ ที่ไม่หลุดออกจากก้อนเมฆด้วยซ้ำ”
“ผมทำเสียงนี้ได้!! ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ เป็นพลังพิเศษที่กระจอกดีนะ แต่กระจอกผมก็เอา!”
ผมทำได้ วู้!!! ไม่ยักรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เวลาจะทำผมต้องหลับตาเลยนะ คนอื่นๆ ล่ะว่าไง
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะทำเสียง “อึกทึก” ในหูด้วยการขยับเทนเซอร์ ทิมพาไน ของตัวเองได้ ดังนั้นหากคุณพยายามเกร็งหน้าแล้วเกร็งหน้าอีกแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้ทราบไว้ว่าคุณนั้นไม่ได้เป็นคนที่ผิดปกติแต่อย่างไร
ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวในครั้งนี้ถือว่าเป็นอะไรที่สร้างเรื่องพูดคุยให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี และร่างกายของเรามันช่างมีเรื่องลึกลับซ่อนเอาไว้อีกมากมายจริงๆ
ที่มา iflscience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น