หลังจากที่เกาหลีใต้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้ไปช่วงหนึ่ง จนมั่นใจว่าสามารถให้ธุรกิจกิจการต่างๆ ที่มีการรวมตัวของคนกลับมาเปิดทำการได้ตามปกตินั้น กลับพบว่ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นซ้ำอีกรอบหลังจากที่ชายวัย 29 ปีคนหนึ่งออกไปเที่ยวผับในกรุงโซล
ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2020 ชายคนดังกล่าวได้ออกไปเที่ยวผับ 5 แห่งในย่านอิแทวอน ก่อนที่จะได้รับยืนยันผลตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นบวกในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม 2020
ศูนย์ควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาดเกาหลีใต้ระบุว่า เขาไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยระหว่างที่เข้าไปภายในตัวอาคารผับ
ส่งผลทำให้มีการติดเชื้ออย่างน้อยเพิ่มอีก 17 รายตามมาซึ่งได้รับผลการยืนยันภายใน 24 ชั่วโมงภายในคืนเดียวกันซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับชายคนนี้ทั้งหมด
ภายหลังจากเกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมา ทำให้ผับและบาร์กว่า 2,100 แห่งในกรุงโซลถูกสั่งปิดในทันที
นอกจากนั้นแล้วผู้ที่ออกไปเที่ยวผับในวันเวลาดังกล่าวกว่า 1,500 รายนั้นก็ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากไวรัส
อย่างไรก็ดีทางกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ประเมินว่าอาจจะมีคนเสี่ยงติดเชื้อมากถึง 7,200 คนจากการย้ายสถานที่ถึง 5 แห่ง
ผลที่ตามมาก็คือมีการยืนยันเคสติดเชื้อเพิ่มภายในกรุงโซล 16 เคส ทำให้ยอดที่เกิดขึ้นจากคนเที่ยวผับนั้นเพิ่มเป็น 40 เคส
ทั้งนี้มีตัวเลขที่เกิดขึ้นในกรุงโซล 27 เคส ในอินชอนและในจังหวัดคย็องกี 12 เคส และอีกหนึ่งเคสในเมืองปูซาน
ทางการได้ขอให้ผู้ที่ไปเที่ยวในผับ King Club, Trunk Club และ Club Queen ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 6 พฤษภาคม เข้ามาตรวจหาเชื้อในทันทีรวมถึงขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงออกจากสถานที่สาธารณะ
ทั้งนี้ ประชาชนชาวเกาหลีใต้เริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามสถานบันเทิงกลางคืนในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษาคม หลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการการเว้นระยะห่างบางอย่าง
แม้ว่าจะให้เปิดบริการตามปกติแล้วแต่ก็ยังคงให้มีการวัดไข้ก่อนเข้า พนักงานต้องสวมใส่หน้ากาก และจดรายชื่อผู้ที่เข้ามาใช้บริการ
ที่มา: yna, koreaherald, mothership
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น