สวีเดนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศในทวีปยุโรปที่ได้รับการวิจารณ์ด้านลบจากผู้เชี่ยวชาญในประเทศ กับท่าทีในการรับมือวิกฤตไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาด ณ ขณะนี้
เนื่องจากที่ผ่านมาทางรัฐบาลนำโดยนาย Stefan Löfven นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ไม่ได้มีมาตราควบคุมที่เข้มงวดเท่ากับที่อื่น แนะนำให้คนปฏิบัติตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม
แต่ไม่ได้สั่งปิดสถานที่สาธารณะเช่นโรงเรียน บาร์ หรือตามร้านอาหารต่างๆ ในขณะที่ประเทศใกล้เคียงทำการสั่งปิดกันหมด
แพทย์และนักวิชาการจำนวนหลายพันคนรวมตัวกันลงชื่อให้รัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้ โดยหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า หากปล่อยปละละเลยมากกว่านี้ก็ไม่ต่างกับการเล่นรัสเซียนรูเล็ตที่มีชีวิตประชาชนเป็นเดิมพัน เพราะตอนนี้รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสั่งล็อคดาวน์ เพื่อไม่ให้ระบบสาธารณสุขพัง
เพราะแทนที่จะสั่งปิด สั่งห้ามรวมตัวหรือชุมนุมเกินหลายสิบคน ทางการสวีเดนขอความร่วมจากพลเมืองโดยอาศัยความรับผิดชอบส่วนตนแทนเพื่อช่วยชะลอการแพร่ระบาด และขอให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วยไข้กักตัวอยู่แต่ในบ้าน
โดยเชื่อว่าประชาชนมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากพอ ทางการสั่งปิดแค่โรงเรียนระดับชั้นม.ปลาย มหาวิทยาลัย กับสั่งห้ามชุมนุมเกิน 50 คนเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ทำงานที่บ้านแทน ในขณะที่ข้างนอกยังคงมีผู้คนออกมารวมตัวตามสถานที่ต่างๆ มากมายเช่นเดิม
แต่แล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สวีเดนเริ่มมียอดผู้เสียชีวิตมากขึ้นรวมถึงยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจากหลัก 200 เป็น 400 รายต่อวัน
จนล่าสุดนี้นาย Stefan Löfven ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อหนังสือพิมพ์ Dagens Nyheter ว่าให้ทั้งประเทศเตรียมตัวรับมือกับยอดผู้เสียชีวิตจำนวนหลักพันหลังจากนี้ ยอมรับว่ามีผู้ป่วยขั้นสาหัสเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากที่ต้องอยู่ในห้องไอซียู
โดยหลังจากนี้จะเริ่มทำการพิจารณาถึงการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ อีกครั้ง และย้ำว่ากระบวนการของสวีเดนนั้นมีความแตกต่าง เพราะสวีเดนเองยังไปไม่ถึงระยะร้ายแรงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
ที่มา: dn, theguardian, dailymail
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น