CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

สาวไต้หวันจะบินไปเมืองอู่ฮั่น โดนเจ้าหมา “ทำลายพาสปอร์ต” กลายเป็นโชคดีซะงั้นเลย

แม้จะมีการตรวจพบผู้ป่วยตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น เพิ่งกลายเป็นประเด็นอันร้อนแรงไปทั่วโลกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง

นั่นเพราะทางการจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น และอีกหลายเมืองในมณฑลหูเป่ย์ เพื่อทำการกักกันและหวังต่อสู้กับโรคนี้อย่างเด็ดขาด

 

ย้อนกลับไปในวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา สาวไต้หวันคนหนึ่งมีแพลนเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่ก่อนจะบินเพียงไม่กี่วัน เธอก็ต้องพบกับภาพสุดช็อก

เจ้าหมาของเธอที่ชื่อ “คิม” แทะพาสปอ์ตของเธอซะเละ จนเธอไม่สามารถใช้มันในการเดินทางได้..

 

อ๊ะ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!?

 

นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นนะ!? แล้วพาสปอร์ตมาอยู่กับหนูได้ยังไง – คิมไม่ได้กล่าว

 

ก็บอกว่าหนูเปล่าาาาาา หนูเปล่านาาาาา

 

และนี่คือสภาพพาสปอร์ตเล่มดังกล่าว

 

เธอเห็นแบบนั้นก็เลยมาโพสต์บ่นลงบนเฟซบุ๊ก (โดยไม่รู้ว่ามันบังเอิญช่วยให้เธอไม่ต้องเข้าไปในโซนไวรัสระบาดเลยล่ะ!!)

 

กระทั่งผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เหตุการณ์ไวรัสโคโรนาระบาด ทำให้เธอฉุกคิดได้ว่า เรื่องบังเอิญที่เจ้าหมาทำลายพาสปอร์ตของเธอ มันช่วยให้เธอนั้นปลอดภัยจากไวรัส ไม่ต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่อันตรายด้วย

เธอเลยมาโพสต์ในเฟซบุ๊กอีกรอบ เพื่อขอบคุณเจ้าหมาคิม

“พวกคุณจำเรื่องคิมแทะพาสปอร์ตได้มั้ย!?

กลายเป็นว่ามันช่วยปกป้องชีวิตของฉันเอาไว้ 

หลังจากที่พาสปอร์ตโดนแทะซะเละ ไวรัสก็แพร่ระบาดในพื้นที่ซึ่งฉันกำลังจะเดินทางไปพอดี และมันช่ส+างเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เหมือนมันห้ามฉันไม่ให้เดินทางไปเลย”

 

พอเป็นแบบนี้ เรื่องก็เลยกลายเป็นประเด็นไวรัลสุดฮาและน่ารักไปทันที ใครจะคิดว่าความซุกซนของเจ้าคิม จะทำให้เกิดเรื่องซึ้งแบบนี้ขึ้นมาล่ะ ชาวเน็ตจึงคอมเมนต์ชื่นชมกันใหญ่…

 

ไม่ใช่ฮีโร่ทุกคนที่จะต้องมีผ้าคลุม ฮีโร่บางคน(บางตัว)ก็แค่แทะของมีค่าเท่านั้น

 

เนี่ยยย ทีหลังไม่อยากให้ไป ก็ขอร้องดีๆ บอกให้เธออยู่บ้านก็ได้

(ไม่จำเป็นต้องแทะพาสปอร์ตให้ของเสียหายเลย คิมเอ๊ยยยยย ถรุ๊ยยยย!!)

 

เธอกับเจ้าหมา ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

 

“เนี่ย ที่จริงหนูมีสัมผัสที่ 6 ก็เลยหวังดีช่วยให้เดินทางไม่ได้ไง ขอบคุณหนูสิ!!” – เจ้าคิมไม่ได้กล่าวอีกนั่นแหละ

 

เรียบเรียง #ประธานเหมียว

ที่มา: kimi0611, boredpanda


by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น