จากกรณีก่อนหน้านี้ของคุณลุงแท็กซี่ สิทธิชัย ใกล้ชิด อายุ 72 ปี ได้รับเงินบริจาคจากทั่วประเทศภายในวันเดียวจำนวน 8,300,000 ล้านบาท
โดยมีผู้สื่อข่าวจากช่องไทยพีบีเอสนำเสนอเรื่องราวของคุณลุงจากความลำบากในช่วงวิกฤตไวรัส COVID-19 แม้แต่เงินค่าเช่ารถจะส่งให้เถ้าแก่ยังไม่มี จึงต้องปรับตัวมารับส่งพัสดุแทน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3216549501730189&set=pb.100001255125395.-2207520000..&type=3&theater
โดยคุณลุงจะนำเงินก้อนนี้ไปสร้างบ้านให้ตัวเอง รวมทั้งจะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล บริจาคซื้ออุปกรณ์ช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ และบริจาคให้มูลนิธิเพื่อคนขับแท็กซี่กับองค์กรกลุ่มคนเปราะบาง
https://www.facebook.com/hello.dee.paew/videos/3219314354787037/?t=0
ล่าสุดในวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ข่าวช่องวันได้รายงานประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีนายปรีชา ชุ่มสมบัติ อายุ 49 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่มังกรเจ้าพระยา ได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู จังหวัดสมุทรปราการ
จากเหตุที่ว่านายสิทธิชัยและลูกชาย ค้างค่าเช่าแท็กซี่คิดเป็นหนี้มูลค่า 13,570 บาท ตามไปทวงถึงบ้านก็ไม่เจอ และไม่สามารถติดต่อได้
นายปรีชาเปิดเผยว่าพฤติกรรมของนายสิทธิชัย ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่ถูกนำเสนอไปก่อนหน้านี้ เพราะเขามีบ้านเป็นของภรรยาเก่าที่ยกให้ลูกชายและเขาอาศัยอยู่ ไม่เสียค่าเช่า เสียแค่ค่าน้ำกับค่าไฟ และลูกชายนายสิทธิชัยก็มีงานทำไม่ได้ยากไร้อย่างที่กล่าวมา
ส่วนสาเหตุที่เพิ่งจะออกมาเปิดเผยหลังจากที่นายสิทธิชัยได้รับเงินบริจาค 8 ล้านไปแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายโกหกแต่คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตน
แต่ท้ายที่สุดต้องออกมาเปิดโปงเพราะไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอก และฝากถึงคนที่ชอบบริจาคอะไรก็แล้วแต่อยากให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน
ทั้งนี้นายปรีชายืนยันระบุกับทางเดลินิวส์ว่า การที่ออกมาแสดงตัวเช่นนี้ไม่ได้เป็นเพราะอิจฉา เพียงแต่อยากได้เงินที่เป็นหนี้คงค้างไว้คืนก็เท่านั้น
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น