การที่ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลก ทำการเกิดความเปลี่ยนแปลงในลักษณะภูมิประเทศ เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์ทราบและกังวลกันมาเป็นเวลายาวนาน อีกไม่นานในหลายพื้นที่คงจะจมหายอยู่ใต้น้ำ
ความเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ทำให้ นักโบราณคดี Chris Fisher และนักภูมิศาสตร์ Steve Leisz สองนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโดรู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก
เพราะพวกเขามองว่าข้อมูลสำคัญๆ หลายอย่างของโลกจะหายไปพร้อมความเปลี่ยนแปลงของโลก คล้ายกับที่เราไม่อาจทราบหน้าตาจริงๆ ของโลกเมื่อหลายล้านปีก่อนได้
เพื่อที่จะรักษาข้อมูลของโลกก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ พวกเขาทั้งสองจึงจัดเก็บข้อมูลภูมิประเทศของโลกทั้งใบในรูปแบบ 3 มิติ ภายใต้โครงการไม่หวังผลกำไรชื่อ “The Earth Archive”
คุณ Fisher บอกว่า พวกเขาวางแผนที่จะเก็บข้อมูล 3 มิติ โดยอาศัยระบบเลเซอร์ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้เครื่องบินที่ติดเครื่องมือแบบพิเศษฉายแสงสแกนพื้นที่ต่างๆ จากมุมสูง (LiDAR Scan)
ก่อนที่ทีมนักวิทยาศาสตร์จะแปลงข้อมูลที่ได้มาเป็นแผนที่ 3 มิติรายละเอียดสูงและลบสิ่งอื่นๆ ที่อาจบดบังจุดสำคัญของพื้นผิวโลกอีกที
วิธีนี้ถือว่าค่อนข้างแพร่หลายในการสำรวจทางโบราณคดีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และมีผลงานสำคัญๆ ทั้งการค้นพบถนนโบราณที่ถูกฝังของกรุงโรม หรือเมืองโบราณแห่งใหม่ในกัมพูชาเมื่อปี 2007
ดังนั้นคุณ Fisher จึงค่อนข้างมั่นใจในการทำงานของมันมาก ถึงขนาดที่เขาออกมาพูดว่าโครงการชิ้นนี้จะเป็น “ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต” เลย
แต่การทำงานที่ใหญ่โตขนาดนี้ มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากตามไปด้วย อย่างแค่ในกรณีที่โครงการนี้จะสแกนป่าอเมซอนในช่วง 3 ปีข้างหน้าพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องมีเงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 300 ล้านบาท) และอาจติดขัดในแง่ของการสแกนบางพื้นที่บนโลกอยู่ แต่ก็ถือว่าเป็นโครงการที่มีความน่าสนใจและทะเยอทะยานสูง
ตัวอย่างการใช้งานเครื่องมือสแกน LiDAR บริเวณฐานวิจัย Davis ทวีปแอนตาร์กติกา
และหากเพื่อนๆ สนใจอยากสนับสุนโครงการนี้ เพื่อนๆ ก็สามารถเข้าไปบริจาคเงินให้กับทั้งสองได้โดยตรง ที่นี่
ที่มา theeartharchive, livescience และ theguardian
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น