การเข้ามาของอินเทอร์เน็ตและระบบธนาคารบนมือถือนั้นทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการจับจ่ายซื้อของ ไม่แทบไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ร้านด้วยตนเองเลย
เว็บไซต์สำหรับซื้อของออนไลน์ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่ตามมาก็คือบริษัทขนส่งที่มีหลายเจ้าให้เลือกใช้ แต่ขอบอกเลยว่าชีวิตคนเรายิ่งง่ายเท่าไหร่ ปัญหากวนใจมันก็มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะปัญหากับพี่ๆ พนักงานส่งของนี่แหละ
กล่องแข็งยังไม่รอด
“ห้ามพับ”
ลิฟต์นะเว้ย ไม่ใช่ห้องน้ำ
เมื่อพนักงานส่งของถ่ายรูปหลักฐานว่าส่งแล้ว แต่ดันขโมยของไปซะเอง
ทีวีใหม่มาส่งแล้วจ้าาา
ขอชิมหน่อย
เมื่อพัสดุหายไปถึง 3 ชิ้นติด ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าทำไม…
ซ่อนเนียนมากจ้าพี่
พี่เดินผ่านทุ่งระเบิดมาส่งปะเนี่ย
“ใบปริญญาบัตร ห้ามม้วน”
เมื่อพนักงานส่งของบอกว่าประตูหน้าบ้านถูกกีดขวางเลยเข้ามาส่งของไม่ได้…
ประเด็นคือประตูบ้านตูต้องเปิดออกไปไง
“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมว่าของคุณอาจจะร่วงลงไปในชักโครก”
รู้ทั้งรู้ว่าเป็นห้องน้ำก็ยังจะหย่อนเข้ามาเนาะ
“เราได้พยายามดูแลพัสดุคุณอย่างถึงที่สุดแล้วจริงๆ โปรดรับคำขอโทษของเราด้วย”
ถ้านี่คือดูแลสุดๆ แล้ว ป่านนี้พนักงานส่งของคงอยู่ห้อง ICU แล้วมั้ง
นั่นคือพัสดุที่บริษัทบอกว่าส่งถึงที่แล้ว
เจอมันวางอยู่ทางเข้าบ้านตอนกำลังจะออกไปทำงาน
สั่งประตูบานใหม่มา…
รับน้าาาาาาาาา
เรียนตั้ง 5 ปีกว่าจะได้มา พนักงานส่งของทำร่วงลงแอ่งน้ำซะงั้น
พนักงาน FedEx VS พนักงาน UPS
เจ้าของบ้านน้ำตาร่วงแล้ว
ไม่ติดป้ายว่า “ขโมยฉันไปที” ด้วยซะเลยล่ะพ่อคุ๊ณณณณณณณณ
“อเมซอน บ้านเลขที่ 59 อยู่นี่โว้ย เอ็งเอาของตูไปส่งไหนมาวะ”
เมื่ออเมซอนส่งของของที่บ้านไปให้บ้านข้างๆ อยู่เรื่อย แถมไอ้เพื่อนบ้านตัวดีก็ไม่ยอมคืนของอีกต่างหาก
แพคของโหด เหมือนโกรธอะไรตู
คนรักหนังสือคือร้องไห้เลยนะ
อย่าทิ้งน้องไว้กลางทางแบบนี้
ของถูกส่งของฝนกำลังตก แต่พนักงานก็ไม่ยอมเอาวางไว้ตรงที่มันแห้งๆ
เอ็งแค้นอะไรเจ้าของบ้านรึเปล่าเนี่ย
ยังเรียกว่าพิซซ่าได้อยู่ใช่มั้ย
ก็บอกว่าให้วางเอาไว้อีกที่ไงงงง
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ที่มา BoredPanda
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น