จากเหตุการณ์คดีสุดแปลก ‘ครอบครัวถูกขังเอาไว้ในบ้านตัวเองนาน 9 ปี’ ที่เกิดขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : เปิดคดีปริศนา ครอบครัวโดนขังไว้ในบ้านตัวเอง 9 ปี โดยชายแปลกหน้า ตำรวจงงตึ๊บ
แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยปริศนามากมาย ทำให้หลายคนยังคงคาใจอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ในวันนี้สำนักข่าวต่างประเทศก็ได้รายงานสถานการณ์เพิ่มเติมมาให้เราได้ติดตามกันแล้วครับ จะมีอะไรบ้างลองตามไปชมพร้อมๆ กันได้เลย…
1. เจอตัวพ่อของเด็กๆ แล้ว
จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยออกมา ทำให้เราทราบว่าในคดีนี้มีผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งหมด 6 รายด้วยกัน ประกอบไปด้วยเด็กวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 18 จนถึง 25 ปี 5 คน
และชายสูงอายุอีก 1 คน ก็คือนาย Geert van Dorsten ผู้เป็นพ่อของเด็กทั้ง 5 คนนั่นเอง
2. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหา
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่า จริงๆ แล้วผู้ต้องหาคือชายวัย 58 ปี มีชื่อว่า Josef Brunner เป็นชาวออสเตรีย
จากการสอบถามพยานที่เป็นเพื่อนบ้าน ทำให้ทราบว่านาย Josef เนี่ย เคยเป็นเพื่อนบ้านของ ‘ครอบครัวที่ถูกจับขังไว้ในห้องใต้ดินที่ฟาร์ม’ มาก่อน!?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จริงๆ แล้วฟาร์มที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้น และเจอครอบครัวถูกขังไว้ในนั้น เพิ่งจะย้ายมาอยู่ในปี 2010
ก่อนหน้านั้นพวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Hasslet และนาย Josef ผู้ต้องหา กับครอบครัวก็เป็นเพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกัน
บ้านของผู้ต้องหา (หลังด้านซ้าย) และครอบครัวที่ตกเป็นเหยื่อ (หลังด้านขวา)
3. คำบอกเล่าจากเพื่อนบ้าน
นาง Sandra Soer ผู้เป็นอดีตเพื่อนบ้านของทั้งผู้ต้องหา และเหยื่อ เล่าว่าเมื่อก่อนครอบครัวของเธอสนิทกับครอบครัวของนาย Geert มากๆ
นาง Sandra Soer
ลูกๆ ของพวกเขาเคยเล่นด้วยกัน ในทุกๆ เช้าก็จะออกมาทักทายกันตามปกติ เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
แล้วอยู่มาวันหนึ่งนาย Josef ก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านอีกหลัง ซึ่งติดกันกับบ้านของครอบครัว Geert และเธอก็เข้าใจว่าทั้งสองคนน่าจะรู้จักกันมาก่อนแล้ว เพราะทันทีที่ย้ายเข้ามา พวกเขาก็รื้อรั้วที่กั้นระหว่างสวนหลังบ้านของพวกเขาออก
จนกระทั่งในปี 2004 ภรรยาของนาย Geert ได้เสียชีวิตลง
“วันหนึ่ง Geert เดินมาบอกฉันว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียไปด้วยโรคมะเร็ง ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอป่วย และไม่มีใครรู้เลยว่าเธอถูกเอาไปฝังไว้ที่ไหน”
จากนั้นครอบครัวของ Geert ก็ย้ายออกจากบ้านไป
ทางด้านของนาย Josef ผู้ต้องหานั้น นาง Sandra บอกว่าหลังจากที่ครอบครัวของ Geert ย้ายออกไป เขาก็อาศัยอยู่แต่ห้องใต้ดิน และไม่ค่อยออกมาเจอใครมากนัก
ต่อจากนั้นซัก 2-3 เดือนเขาก็หายตัวไป แล้วก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย
4. เหตุการณ์หลังจากครอบครัวย้ายออกจากบ้าน
จากรายงานระบุว่า นาย Geert ซื้อร้านของเล่นในหมู่บ้าน Zwartsluis เอาไว้ หลังจากที่ย้ายออกมาก็มาอาศัยอยู่ที่ร้านนี้เป็นเวลา 2-3 ปี
ก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่ที่บ้านฟาร์มหลังนั้นในภายหลัง
ร้านขายของเล่นในหมู่บ้าน Zwartsluis
นอกจากนี้ มีรายงานว่านาย Geert มีรสนิยมแปลกๆ ชอบใช้ชีวิตเหมือนกับชาว Hobbit และมักจะขังตัวเองอยู่ในห้องใต้ดินที่บ้านหลังใหม่
ภาพแผนที่แสดงให้เห็นว่าแต่ละจุดนั้นไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก
5. ข้อมูลจากพยาน เกี่ยวกับผู้ต้องหา
ชาวบ้านในหมู่บ้าน Ruinerwold เล่าเหตุการณ์ว่า พวกเขามักจะเห็นนาย Josef ขับรถไปกลับระหว่างบ้านฟาร์มที่เกิดเหตุ และที่ทำงานของเขาที่ห่างออกไปราว 25 กิโลเมตร เป็นประจำทุกวัน
ในหนึ่งสัปดาห์เขาจะขับรถไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหนึ่งครั้ง เพื่อซื้อเสบียงต่างๆ ทั้งอาหาร และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตให้กับครอบครัว
จากปากคำของพยานเล่าว่า นาย Josef จะไม่พูดกับใคร และทำตัวเหมือนกับมีความลับอยู่ตลอดเวลา
ที่ทำงานของนาย Josef ที่อยู่ในหมู่บ้าน Meppel
6. ตำรวจยังคงต้องไขปริศนาคดีเพิ่มเติม
แม้ว่าข้อมูลจะถูกเปิดเผยออกมามากมายแล้ว แต่ทว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อไขคดีนี้ให้ได้ ซึ่งปัญหามันติดอยู่ตรงที่ว่า ครอบครัวที่เป็นเหยื่อนั้นไม่สามารถสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจได้!!
เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยว่าพวกเขาสื่อสารกับครอบครัวที่ตกเป็นเหยื่อได้ยากมากๆ เพราะเหมือนกับว่าครอบครัวที่ตกเป็นเหยื่อพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ
ที่พอทราบก็มีเพียงแค่ว่า พวกเขาต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่แคบๆ ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องมาถึง ก็เท่านั้น
ซึ่งสิ่งที่ตำรวจต้องการทราบก็คือว่า ‘ครอบครัวนี้ ตกลงปลงใจที่จะอาศัยอยู่แบบนี้กันเอง หรือว่าถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวกันแน่?’ เพื่อที่จะนำข้อมูลนี้ไปประกอบการดำเนินคดี
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจว่ามีข้อสงสัยเกิดขึ้นมากมาย และประชาชนเองก็ต้องการที่จะทราบเรื่องราวทั้งหมดอย่างเต็มที่แล้ว แต่พวกเขาเองก็อยากให้ใจเย็นๆ เพราะตำรวจเองก็งงไม่แพ้กัน!!
อย่างไรก็ตามนาย Josef จะถูกนำตัวมาขึ้นศาลในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
หากมีความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับคดี #เหมียวหง่าว จะรีบคาบข่าวมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังอย่างเร็วไวเลยครับ
ที่มา : dailymail
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น