CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ขนลุก!! ชายญี่ปุ่นมีไม้จิ้มฟันติดอยู่ในทวารหนักนานเป็นเดือน แถมกดเส้นประสาทอีก

เคยมีประสบการณ์ทานอะไรที่ไม่ควรเข้าไป และพบว่ามันถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระไหม? นี่ถือว่าหนึ่งในเป็นระบบการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของร่างกายมนุษย์เลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวก็ใช่ว่าจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเสมอไป

นั่นเพราะเมื่อล่าสุดนี้เอง ในวารสาร BMJ Case Reports แพทย์ในประเทศญี่ปุ่น ก็เพิ่งจะออกมานำเสนอเรื่องราวกรณีศึกษาของคนไข้ชายวัย 67 ปี คนหนึ่ง

ซึ่งต้องทุกข์ทรมานจากอาการปวดช่วงล่างเป็นเดือนๆ เนื่องจากเขามี “ไม้จิ้มฟัน” ติดค้างอยู่ในทวารหนักเสียอย่างนั้น

 

 

เรื่องราวสุดแปลกในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อคนไข้รายนี้ เข้ามารับการรักษาอาการเจ็บปวดที่บริเวณสะโพกและต้นขาขวา

โดยหลังจากการทำ MRI สแกน ทีมแพทย์ได้พบว่าชายคนนี้มีอาการตีบที่รอบๆ หลังส่วนล่าง ซึ่งตามปกติจะมาจากโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบไปกระทบกับเส้นประสาท และอาจต้องผ่าตัดรักษาในบางกรณี

อย่างไรก็ตามในการทำ CT สแกนก่อนการผ่าตัด ทีมแพทย์กลับต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาพบว่าในทวารหนักของคนไข้กล่าวกลับมี ไม้จิ้มฟัน 7 เซนติเมตร ที่คนไข้รายงานว่าเผลอกลืนเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อนตกค้างอยู่

และหากมองจากช่วงเวลาที่คนไข้เผลอกลืนมันลงไปแล้ว ไม้จิ้มฟันดังกล่าวก็อาจจะเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการที่อาการปวดทวีขึ้นจนทำให้คนไข้ต้องมาปรึกษาแพทย์เลยด้วย

 

 

ดังนั้นแทนที่จะทำการผ่าตัดไปเลยทางแพทย์จึงได้ลองนำไม้จิ้มฟันออกจากร่างกายของคนไข้ดูก่อน และน่าเหลือเชื่อมากว่าหลังจากนำสิ่งแปลกปลอมนี้ออกจากทวารสำเร็จอาการของคนไข้ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที

ซึ่งในภายหลังทัมแพทย์ได้พบว่าที่เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะส่วนปลายแหลมของไม้จิ้มฟันดันไปปักเข้าใส่เส้นประสาทในไขสันหลัง ทำให้แรงกดจากตัวไม้ทำให้เกิดอาการปวดที่สะโพกและต้นขาขวานั่นเอง

 

 

เรียกได้ว่าด้วยเรื่องบังเอิญ บวกกับความโชคร้ายหลายๆ อย่างทำให้ชายคนนี้ต้องกลายเป็นกรณีศึกษาของอาการหายากไปเลยก็คงไม่ผิดนัก

และในขณะเดียวกันนี้เองเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นอุทาหรณ์ที่ทำให้ทีมแพทย์ต้องระบุไว้ในรายงานเลยว่า “คนเป็นแพทย์นั้น ควรมีสติเพื่อหลีกเลี่ยงการวินิจฉัยที่ผิดพลาด” ดังที่เกือบจะเกิดขึ้นแล้วในการรักษาครั้งนี้

 

ที่มา gizmodo และ bmj


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น