สหราชอาณาจักร (UK) กำลังเผชิญกับความรุนแรงของ COVID-19 อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 19,000 ราย และเสียชีวิตอีกไม่น้อยกว่า 1,200 ราย
การแพร่ระบาดอย่างหนักทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการฉุกเฉินต่างๆ ทั้งเรื่องของการให้ประชาชนกักตัวอยู่แต่ภายในบ้าน จำกัดพื้นที่สาธารณะทั้งหลาย รวมไปถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
เบื้องต้น รัฐบาลได้ออกมาประกาศว่าประชาชนจะต้องกักตัวอยู่ในบ้านราว 3 สัปดาห์ เพื่อให้ระดับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายในประเทศนั้นลดลงจนอยู่ในระดับที่พอรับมือได้
ทว่าในภายหลัง Michael Gove รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เขาก็ได้ออกมาพูดว่า…
“เราไม่สามารถทำนายได้ว่ามันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ผมคิดว่าเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงเวลาสำคัญ ประชาชนควรต้องอยู่แต่ภายในบ้านไปก่อน โดยที่เราจะคำนวนระยะเวลาที่เหมาะสมกันอย่างต่อเนื่อง”
ขณะเดียวกัน ล่าสุดศาสตราจารย์ Neil Ferguson ผู้นำกลุ่มที่ปรึกษาทางด้านโรคระบาดของรัฐบาล เขาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า…
“เราคงต้องใช้วิธีการกักตัวเองอยู่ภายในบ้านนี้ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งจากที่ผมได้คิดคำนวณเอาไว้แล้ว มันอาจยาวไปถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายน”
คำพูดของเขานั้นก็สอดคล้องกับคำพูดของ Catherine Calderwood หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสกอตแลนด์ ที่บอกว่า…
“เราได้จำลองสถานการณ์ดูแล้ว และฉันมองเห็นว่าเราต้องใช้เวลาอย่างน้อย 13 สัปดาห์ ให้ผู้คนกักตัวอยู่แต่ภายในบ้าน เพื่อที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสระหว่างคนภายในประเทศลงได้”
พวกเขาเชื่อว่า หากผู้คนออกมาใช้ชีวิตตามปกติเร็วเกินไป การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจะยิ่งเลวร้ายมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็จะยังคงวิเคราะห์สถานการณ์กันต่อไปในทุกวัน เพื่อให้การแพร่ระบาดที่ยังคงเกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบกับคนภายในประเทศน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น