เพื่อนๆ ยังจำแก๊งเด็กวัดขนปุย สีนิล นำโชค และสำอาง ได้มั้ย? ซึ่งหลังจากเปิดตัวไป ก็มีทาสแมวจำนวนมากตกหลุมรักน้องๆ แต่ไม่รู้ว่ายังมีใครติดตามน้องๆ อยู่เรื่อง
หากเพื่อนๆ ไม่ได้ตามต่อ วันนี้เราจะมาอัปเดตชีวิตน้องๆ ให้ได้รู้กันค่ะ
ขอท้าวความนิดหนึ่งสำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จักน้องๆ …สีนิล นำโชค และสำอาง เกิดในวัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดมุกดาหาร โดยมีหลวงพี่บุญส่ง เป็นผู้ดูแลน้องๆ
ทั้ง 3 ตัว เติบโตพร้อมร่างกายที่แข็งแรง มีนิสัยขี้เล่น ร่าเริง ชอบปีนป่ายทุกอย่างที่ปีนได้และสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนในวัดอยู่เสมอ
ปัจจุบันสีนิล นำโชค และสำอาง อายุ 7 เดือน ซึ่งโตเป็นหนุ่ม เป็นสาวกันแล้ว โดยที่ความน่ารัก ความสดใส และความซุกซนของน้องๆ ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากมีทาสแมวจำนวนมาก เป็นแฟนคลับของน้องๆ ทั้ง 3 ตัว หลวงพี่บุญส่ง จึงมักจะโพสต์รูปน้องๆ ในกลุ่มทาสแมวต่างๆ บ่อย เพื่อให้แจกความสดใส รวมถึงให้เห็นพัฒนาการของน้องๆ
หลวงพี่ของฉัน แมวตัวอื่นห้ามมอง… (สำอางกล่าว)
อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ น้องๆ ทั้ง 3 ตัว ยังคงรักและสนิทสนมกันเหมือนเดิม และไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร พวกมันจะอยู่ด้วยกันเสมอ
ก่อนหน้านี้ หลวงพี่เคยบอกว่า น้องๆ ทั้ง 3 ตัว ไม่ได้กินอาหารดีๆ ราคาแพงเหมือนแมวบ้านทั่วไป เพราะในวัดนี้ไม่ได้มีแมวแค่ 3 ตัว แต่มีแมวจำนวนมากที่หลวงพี่ต้องดูแล
อย่างไรก็ตาม หลังจากน้องๆ กลายเป็นที่รู้จักของพี่ๆ ทาสแมว ก็มีทาสแมวหลายคนส่งอาหารดีๆ ให้น้องกิน รวมไปถึงขนมต่างๆ
การได้กิน อยู่ดี และมีหลวงพี่คอยดูแลเป็นอย่างดี ทำให้น้องๆ อ้วนขึ้นๆ จนกลายเป็นแมวอวบอั๋นอย่างเห็น และทั้ง 3 ก็พอใจกับชีวิตแบบนี้
สำหรับหลวงพี่บุญส่ง ท่านบอกว่าเด็กๆ เหล่านี้ เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง เพราะบางครั้งเมื่อท่านเจอเรื่องเศร้าหมอง ก็มีน้องๆ พวกนี้แหละ ที่ทำให้ใจเบิกบานและยิ้มได้
เราเองก็หวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับความสุขจากสีนิล นำโชค และสำอาง เช่นกัน โดยสามารถติดตามน้องๆ ในกลุ่มทาสแมวต่างๆ ผ่านเฟซบุ๊กหลวงพี่บุญส่ง บุญส่ง ใจตรง
ได้เห็นความน่ารักสดใสของชีวิตเด็กวัดขนปุยทั้ง 3 ตัวแล้ว หวังว่าเพื่อนๆ จะเห็นคุณค่าของแมววัดมากขึ้นนะคะ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนอยากเลี้ยงแมวสักตัว ขอให้แมววัดอยู่ในตัวเลือกด้วยนะคะ
แมววัดอาจจะไม่ใช่แมวพันธุ์ อาจจะไม่มีราคา และไม่จำเป็นต้องซื้อด้วยเงิน แต่น้องๆ ก็สามารถเป็นเจ้านายที่ดี และทำให้คุณมีความสุข ชนิดที่เงินไม่สามารถซื้อได้
สุดท้ายนี้ทิ้งท้ายด้วยข้อคิดจากหลวงพี่บุญส่ง “ทุกชีวิตมีค่า มีความหมาย ไม่ว่าคนหรือสัตว์ขอให้พวกเราทั้งหลายที่เรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐจงมีจิตใจอันประเสริฐ มีความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ เพราะพวกเขาเหล่านั้นต้องพึ่งพามนุษย์อย่างเราถึงจะอยู่รอดปลอดภัย”
.
สมาชิกแก๊งเด็กวัดเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่น้องๆ ก็ต้อนรับกันและอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
ใครใหญ่สุดในแก๊ง คงไม่ต้องถามนะ
หนูแข่งกันอ้วนหรอลูก
ถึงจะเป็นเด็กวัด แต่พุงน้องๆ แน่นเสมอ
ถ่ายรูปกับหลวงพี่ทำให้หน้าให้มันดีๆ หน่อย
ขอยาดขำหน้าสีนิล
ที่มา บุญส่ง ใจตรง
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น