เราต้องไม่ลืมว่า แม้หลายๆ อย่างในตอนนี้อาจเริ่มกลับมาเป็นปกติบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเชื้อ COVID-19 ก็ยังคงระบาดอยู่ เราจึงยังคงจำเป็นต้องป้องกันตัวเองจากการแพร่เชื้อรอบด้าน
และประเทศที่น่าจะแสดงให้เราได้เห็นชัดเจนที่สุดว่ายังคงมีการระบาดเกิดขึ้นอยู่จริงๆ ก็คงหนีไม่พ้นประเทศมหาอำนาจอย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ ซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 1 ของโลกที่ต้องเผชิญกับปัญหาในเรื่องนี้
สหรัฐอเมริกาในปัจจุบันนั้นยังคงมีการแพร่ระบาดที่รุนแรงอย่างมาก จำนวนของผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยจากข้อมูลของ World O Meter กล่าวว่า ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2020 สหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันสูงถึง 74,987 ราย ซึ่งนั่นถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลก
และก่อนหน้านี้อย่างวันที่ 16 กรกฎาคม ก็พบผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวัน 73,388 ราย ในวันที่ 15 กรกฎาคม พบทั้งสิ้น 72,005 ราย ส่วนในวันที่ 14 กรกฎาคม ก็พบทั้งสิ้น 66,048 ราย
ไม่ใช่แค่เพียงจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเท่านั้น เพราะแม้แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรวมเองสหรัฐอเมริกาก็ยังครองอันดับ 1 อยู่ที่ 3,770,012 ราย ขณะที่บราซิลเป็นอันดับ 2 นั้นมีผู้ติดเชื้อรวม 2,048,697 ราย
ในส่วนของผู้เสียชีวิตเองก็เช่นกัน สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 142,064 ราย ส่วนบราซิลเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 77,932 ราย
ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาก็มีจำนวนผู้ที่รักษาหายแล้วทั้งสิ้น 1,741,233 ซึ่งก็เป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลทางสถิติที่เราเห็นนั้นก็อาจทำให้หลายคนสงสัยว่า เพราะอะไรการแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาถึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ แบบนี้?
ดอกเตอร์ Anthony Fauci ผู้ปรึกษาเฉพาะทางเกี่ยวกับเชื้อ COVID-19 ประจำทำเนียบขาว เขาได้พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า มันเป็นผลมาจากการที่สหรัฐฯ นั้นไม่เคยเข้าสู่การปิดประเทศโดยสมบูรณ์เลย
“พวกเราไม่เคยปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เรามักจะผ่อนปรนและคิดว่า ‘เราไม่สามารถปิดประเทศไปได้ตลอดหรอก’ มันก็จริง แต่เราก็ควรปิดประเทศในยามจำเป็นและค่อยๆ ผ่อนปรนไปทีละขั้น ทีละตอน”
ดอกเตอร์ Anthony กล่าวต่อไปว่า…
“สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือขอให้ทุกคนถอยมาคนละก้าว เราไม่จำเป็นต้องปิดประเทศอีกครั้ง แต่ขอให้ค่อยๆ ทำกันไปทีละขั้นตอน
“เราควรต้องติดตามข่าวสารที่จำเป็นทางโทรทัศน์กันบ้าง ทำตามคำแนะนำ ไม่ใช่ว่าโยนมันทิ้งไปแล้วใช้ชีวิตอย่างที่เห็นว่ามีคนไปกองกันเต็มในร้านเหล้าหลังจากที่กลับมาเปิด หรือบางคนก็ไม่สวมหน้ากากอนามัย
สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือการรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการชุมนุม ล้างมือให้สะอาด สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ และเราควรต้องทำเพื่อให้ประเทศได้ก้าวต่อไปข้างหน้า”
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: World O Meter , Unilad , Stanford Medicine
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น