ย้อนกลับไปในปี 1942 เรือดำน้ำ “USS Grunion” ของสหรัฐอเมริกา ได้อับปางลงในภารกิจครั้งแรกของมัน คร่าชีวิตลูกเรือร่วม 70 ชีวิต และลงไปนอนสงบนิ่งอยู่ภายในมหาสมุทรแปซิฟิก
แม้ตัวเรือ USS Grunion จะถูกค้นพบอีกครั้งในปี 2006 แต่ตัวเรือที่นักสำรวจพบ กลับยังคงขาดส่วนหัวเรือของมันอยู่ ดังนั้นแทนที่การค้นหาจะจบลง สุดท้ายแล้วทีมนักสำรวจหลายๆ กลุ่มยังคงตามหาส่วนหัวเรือลำนี้ต่อไป
และแล้วเมื่อกาลเวลาผ่านไปกว่า 70 ปี จากวันที่เรือลำนี้อับปางไป เมื่อล่าสุดนี้เองทีมนักสำรวจใต้น้ำจากโครงการ “Lost 52 Project” โครงการซึ่งออกตามหาเรือดำน้ำที่จมไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ได้มีโอกาสค้นพบ “หัวเรือที่หายไป” ของ USS Grunion อีกครั้ง
หัวเรือดำน้ำชิ้นนี้ถูกค้นพบอยู่ลึกลงไปใต้น้ำราวๆ 820 เมตร ในพื้นที่ห่างไปจากชายฝั่งของหมู่เกาะอะลูเชียนในรัฐอะแลสกา ถูกค้นพบโดยยานยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติ หรือ AUV ซึ่งมีการติดตั้งระบบการถ่ายภาพขั้นสูง ที่สามารถสร้างภาพ 3 มิติของส่วนหัวเรือที่หายไปออกมาได้อย่างสวยงาม
ภาพ 3 มิติ ของส่วนหัวเรือ USS Grunion
“นี่เป็นอะไรที่มากกว่าวิดีโอหรือภาพนิ่งที่ผ่านๆ มา และเป็นอนาคตใหม่ของการบันทึกการค้นพบทางประวัติศาสตร์ใต้น้ำอย่างแท้จริง” คุณ Tim Taylor หนึ่งในนักสำรวจของ Lost 52 Project กล่าว
นั่นเพราะด้วยภาพ 3 มิติ ที่มีความสูงมากๆ เช่นนี้ นักโบราณคดี นักวิทยาศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์ จะสามารถใช้เวลาตรวจสอบโบราณวัตถุใต้น้ำอย่างละเอียดได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางลงพื้นที่ด้วยตัวเองอีกต่อไปเลยด้วย
หนึ่งในทีมงานของ Lost 52 Project
อ้างอิงจากทาง Lost 52 Project ร่องรอยของหัวเรือ USS Grunion ที่หายไปนั้น ถูกพบเป็นครั้งแรกในปี 2018 เมื่อทีมสำรวจของโครงการพบว่าชิ้นส่วนหัวเรือ USS Grunion น่าจะไหลลงไปตามดินภูเขาไฟ
และเมื่อพวกเขาตามทำการสำรวจพื้นที่รอบๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง ทางโครงการก็ได้พบกับชิ้นส่วนหัวเรือ USS Grunion นอนอยู่ห่างออกไปจากจุดที่พบตัวเรือราวๆ 400 เมตร ในที่สุด
ภาพ 3 มิติของเรือ USS Grunion ที่สร้างขึ้นจากข้อมูลทั้งหมดที่โครงการมี
ทั้งนี้เรือดำน้ำ USS Grunion นั้นได้ถูกนำออกใช้งานโดย สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 11 เมษายน 1942 โดยมีนาวาตรี Mannert Abele เป็นกัปตัน และมีผลงานช่วยผู้รอดชีวิตจากเรือขนส่งจำนวน 16 คน ในระหว่างการเดินทางจากแคริบเบียนไปประจำการที่เพิร์ลฮาเบอร์
ต่อมาในเดือนมิถุนายน 1942 เมื่อเรือลำนี้ได้รับภารกิจลาดตระเวนเป็นครั้งแรกที่หมู่เกาะอะลูเชียน และทำผลงานอีกครั้งด้วยการจมเรือลาดตระเวนของญี่ปุ่น 2 ลำ
และในวันที่ 30 กรกฎาคมปีเดียวกัน ในระหว่างที่ถูกเรียกตัวกลับฐานทัพ เรือลำนี้ก็หายไปอย่างลึกลับด้วยภัยพิบัติทางทะเล ก่อนจะถูกประกาศสูญหายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 5 ตุลาคมนั่นเอง
ที่มา livescience, energyvoice และ cnn
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น