กำลังกลายเป็นประเด็นดราม่าที่ชาวเน็ตให้ความสนใจอยู่ตอนนี้เลย กับกการแถลงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 และการฉีดวัคซีนในประเทศไทย โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยเบื้องต้นเปิดเผยว่าขณะนี้สถานการโควิด-19 ในประเทศไทยนั้น มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
พร้อมทั้งชี้แจงสถานการณ์การฉีดวัคซีน ว่ากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเชื่อว่าอีกไม่เกินครึ่งปีจะฉีดจนครบหมดทุกคน ซึ่งจะทำให้การแพร่ระบาดลดลง และภูมิคุ้มกันของคนไทยจะเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ก็มีการเปิดเผยว่าได้มีการกำชับกำเจ้าหน้าที่พยาบาล ให้ช่วยกันฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา แบบประหยัด ก็คือ 1 ขวดให้ฉีดให้ได้ 12 เข็ม จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้หลายพันล้านบาท
***ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา นั้นปริมาณ 1 ขวด จะบรรจุ 10 โดส ต่อ 1 คน จะต้องใช้ 2 โดส เท่ากับว่า 1 ขวด จะใช้สำหรับคน 5 คน
แต่อย่างไรก็ตามวัคซีนแต่ละขวดจะมีส่วนเกินต่อขวดประมาณ 6.5 มล. มาให้อยู่แล้ว เอาไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด ก็จะสามารถทำให้ฉีดได้ประมาณ 12 คนได้
จากเรื่องการประหยัดวัคซีนนี้ก็เลยทำให้เกิดประเด็นดราม่าขึ้นมา เพราะเกิดข้อกังวลว่า ถ้ามีการกำหนดให้พยาบาลห้ามดูดวัคซีนเกิน 0.5 มล. แล้วถ้าพยาบาลดูดไม่ถึงที่กำหนดจะทำอย่างไร?
เพราะจะถือว่าฉีดไม่ครบโดสตามมาตรฐาน แล้ววัคซีนจะมีประสิทธิภาพหรือไม่? แล้วใครจะรับผิดชอบ? เหตุใดถึงต้องเอาชีวิตของคนไทยไปเสี่ยง?
ลองไปอ่านความเห็นของชาวเน็ตดูครับ
.
อย่างไรก็ตาม ก็มีชาวเน็ตอีกฝั่งออกมาให้ข้อมูลว่า มันสามารถทำได้ และไม่มีความเสี่ยงด้วย…
.
.
ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ แล้วเพื่อนๆ ชาวแคทดั๊มบ์ล่ะครับ มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง? ลองคอมเมนต์เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น