หลังจากที่การประท้วง Black Lives Matter กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ทำให้ในตอนนี้กระแสภาพยนตร์เรื่อง The Help (2011) กลับมาบูมขึ้นอีกครั้งและติดอันดับ 1 บน Netflix ของทางสหรัฐอเมริกา
แต่ทว่าบนโลกอินเทอร์เน็ตกลับมีกระแสเรียกร้องให้ Netflix ถอดภาพยนตร์เรื่องนี้ออก ไปจนถึงขอร้องให้ผู้คนเลิกดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันเลยทีเดียวค่ะ
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลมากมายถึงโดนผู้คนออกมาแอนตี้ขนาดนี้? วันนี้ #เหมียวนานะ มีคำตอบค่ะ
The Help (2011) เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ Kathryn Stockett ที่แต่งขึ้นในปี 2009 เป็นเรื่องราวของสาวใช้คนผิวสีกับคนผิวขาวในช่วงยุค 1960
ซึ่งมันเป็นภาพยนตร์ที่เรียกร้องสิทธิและสะท้อนสังคมในยุคนั้นอย่างแท้จริง ที่คนผิวดำสามารถประกอบอาชีพได้เพียงเป็นคนรับใช้ของคนผิวขาวเท่านั้น นั่นจึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังและได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2011 นักแสดงสาวที่แสดงเป็นสาวใช้นามว่า ไอบิลีน คลาร์ค อย่าง Viola Davis ผู้คว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเวที BET Award ได้ออกมาแสดงความเสียใจที่เธอมีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้
เธอเล่าว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้สื่อถึงเสียงของสาวใช้ในยุค 60 ได้ดีเท่าที่ควร เธอเล่าวว่า
“ฉันเคยรับบทบาทที่รู้สึกเสียใจในชีวิตไหม? เคยค่ะ และ The Help ก็อยู่ในลิสต์
แต่ไม่ใช่ในด้านของเพื่อนนักแสดงนะ เพราะพวกเขาน่ารักมาก มิตรภาพของพวกเราดีงามมาก…
แต่ฉันรู้สึกในวันสุดท้ายของการถ่ายทำว่า หนังเรื่องนี้มันไม่ใช่เสียงของเหล่าคนใช้ที่เราเคยได้ยิน
ฉันรู้จักไอบิลีน รู้จักมินนี่ (ตัวละครในเรื่องที่รับบทโดย Octavia Spencer) พวกเธอเป็นรุ่นย่า รุ่นแม่ของฉัน
ถ้าเราทำหนังแบบนี้ฉันอยากจะรู้ว่ามันรู้สึกยังไงที่ได้ทำงานกับคนขาวและเลี้ยงลูกในปี 1963
ฉันอยากได้ยินว่ามันรู้สึกยังไง แต่ฉันไม่เคยได้เห็นมันจากหนังเรื่องนี้เลย”
นอกจากนี้ บทนิยายของเรื่องนี้ที่ Kathryn แต่งขึ้นมายังเอาคาแรคเตอร์จากหญิงสาวผิวสีผู้เป็นสาวใช้จริงๆ ของครอบครัว Kathryn นามว่า Abilene Cooper มาเป็นตัวละครในเรื่องอีกด้วย
ซึ่ง Abilene เธอไม่ได้ยินยอมและรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์จนถึงขั้นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเลยทีเดียว แต่ทว่าศาลกลับเพิกเฉยและยกฟ้องไปในที่สุด
ด้วยเรื่องราวทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุที่ทำในมีผู้คนเริ่มออกมาร้องขอให้เลิกดู The Help (2011) เถอะ เพราะมันไม่ใช่หนังที่เรียกร้องสิทธิของคนผิวสีอย่างแท้จริง…
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: vanityfair, abcnews
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น