แม้ว่าจะไม่เค็มเท่าทะเลสาบเดดซี แต่ทะเลสาบน้ำเค็มอย่างทะเลสาบโมโนของแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งในทะเลสาบที่ได้ชื่อว่ามีความเข้มข้นของเกลือสูง และเจือไปด้วยสารหนู ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิ่งมีชีวิตที่สามารถอาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ได้ จึงมีอยู่ค่อนข้างจำกัด
และในบรรดาสิ่งมีชีวิตของทะเลสาบโมโนนั้นเอง นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำการค้นพบไส้เดือนฝอยอาศัยอยู่ในน้ำที่เค็มจัดถึง 8 สายพันธุ์ และหนึ่งในไส้เดือนฝอยเหล่านั้น ก็มีอยู่สายพันธุ์หนึ่งที่มีอยู่ 3 เพศอีกด้วย
อ้างอิงจากข้อมูลการสำรวจ นักวิทยาศาสตร์ได้เข้าไปสำรวจทะเลสาบโมโนในช่วงฤดูร้อนของปี 2016 และ 2017 โดยพวกเขาจะทำการเก็บตัวอย่างดินจากแหล่งน้ำในเขตน้ำขึ้นน้ำลงของทะเลสาบเพื่อความปลอดภัย และพบกับไส้เดือนฝอยที่มีรูปร่างของปากแตกต่างกัน 8 ชนิด ซึ่งทำให้พวกเขาแปลกใจเป็นอย่างมาก
นั่นเพราะในตอนที่เข้าไปสำรวจระบบนิเวศในทะเลสาบโมโน แม้ว่าพวกเขาพอจะทราบอยู่บ้างว่าที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตอย่างกุ้งน้ำเค็ม แมลงวันอัลคาไล แบคทีเรีย และสาหร่าย อาศัยอยู่ได้ แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะสามารถพบไส้เดือนฝอยในน้ำที่ทั้งเค็มและเจือสารหนูเช่นนี้
เมื่อการตรวจสอบไส้เดือนฝอยที่พบอย่างละเอียด นักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าพวกมันสามารถทนทานต่อสารหนูได้มากกว่ามนุษย์ถึง 500 เท่า โดยพวกมันจะอาศัยปากที่หลากหลายของมันในการหาอาหารด้วยวิธีการแตกต่างกันไป เช่นการเกาะกินสารอาหารจากสัตว์อื่นแบบปรสิต หรือเล็มกินจุลินทรีย์ ในรูปแบบที่คล้ายกับวัวเล็มกินหญ้า
ในบรรดาการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ พวกเขายังได้ทำการเพาะพันธุ์ไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ที่ชื่อ “Auanema” ในห้องทดลองด้วย ซึ่งก็เป็นในที่นั้นเองที่พวกเขาพบว่าไส้เดือนฝอยสายพันธุ์นี้ มีเพศที่แตกต่างกันไปถึง 3 แบบ แถมยังสามารถเลี้ยงตัวอ่อนในร่างกายของตัวเองได้ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อทำการตรวจสอบรหัสพันธุกรรมของพวกมัน นักวิทยาศาสตร์ยังพบด้วยว่าหนอนเหล่านี้มีการกลายพันธุ์ของยีนชื่อ dbt-1 ซึ่งตามปกติเป็นยีนที่ย่อยกรดอะมิโนในโปรตีน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหลักที่พวกมันทนต่อสารหนูอย่างไม่น่าเชื่อก็เป็นได้
คุณ Pei-Yin Shih หนึ่งในทีมนักวิจัยคาดว่าการวิวัฒนาการสุดแปลกในจุดนี้อาจจะเกิดขึ้นเพื่อการเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย และออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการค้นพบในครั้งนี้ว่า
“งานวิจัยของพวกเรายังคงมีเรื่องให้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต 1,000 เซลล์ ซึ่งสามารถปรับตัวเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายเหล่านี้อีกมาก”
และไม่แน่เหมือนกันว่าการตรวจสอบสิ่งมีชีวิตพวกนี้เอง ก็อาจจะนำมาซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยปกป้องมนุษย์จากสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย อย่างกรณีน้ำที่ปนเปือนสารหนูต่อไปในอนาคตก็เป็นได้
ที่มา livescience และ cell
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น