ในโรงนาที่เลสเตอร์เชียร์ บันทึกเก่าแก่เล่มหนึ่งได้ถูกค้นพบเข้า พร้อมๆ กับกล่องบรรจุวัตถุทางการทหาร ที่มีอายุโดยรวมเก่าแก่กว่า 100 ปี
มันเป็นของพลทหารชาวอังกฤษนามว่า Arthur Edward Diggens ผู้ซึ่งเคยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และบันทึกเรื่องราวชีวิตของเขาในช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุดเอาไว้
บันทึกที่ถูกพบนี้ ถูกส่งไปยังโรงประมูลแฮนสัน ไม่นานหลังจากที่มันถูกค้นพบเพื่อยืนยันและหามูลค่าของมัน ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้น มันจะถูกตั้งกำหนดให้นำเข้าสู่การประมูลหลังจากนั้น
อ้างอิงจากข้อมูลที่ทางโรงประมูลทราบมา พลทหาร Arthur เป็นทหารในกรมทหารช่างหลวง (Royal Engineers) โดยเขาได้เข้าประจำการตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1916 ไปจนถึงช่วงเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
เริ่มทำการเขียนบันทึกเล่มนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เขาเข้าร่วม “ยุทธการที่แม่น้ำซอม” หนึ่งในสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ และได้ชื่อว่าสังหารทหารไปร่วม 20,000 ราย ในเวลาเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น
คุณ Adrian Stevenson ผู้ทำการตรวจสอบบันทึกเล่มนี้
“มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก ไม่เคยต้องมาพบอะไรแบบนี้มาก่อน หลังจากที่ยิงถล่มของสัปดาห์ พวกเยอรมันก็เตรียมพร้อมหลุมเพาะของตัวเอง และในหมู่ทหารก็มีเสียงลือกันว่าพวกนั้นมีปืนกลกันทุกคน” Arthur บรรยายประสบการณ์ที่ยุทธการที่แม่น้ำซอมในบันทึกของเขา
ราวๆ ห้าวันหนังจากนั้น Arthur ได้บันทึกเพิ่มเติมว่า “มีกระสุนปืนใหญ่ หล่นลงมาเพียงไม่กี่หลาจากที่พักชั่วคราวของเรา ยังดีที่พวกเราอยู่ข้างนอกกันเกือบทุกคนยกเว้นเจ้าหนู 3 นาย”
หนึ่งในภาพถ่ายที่โด่งดังที่สุดของยุทธการที่แม่น้ำซอม
“หนึ่งในนั้นบาดเจ็บหนัก โชคดีมากที่ตอนนั้น ผมไม่อยู่ในที่พักด้วย เพราะมีชิ้นส่วนกระสุนฝังอยู่ในเทียนของผมด้วย โอ้ เจ้าดวงปีศาจเอ๋ย”
ในตอนแรกที่บันทึกชิ้นนี้ถูกนำมาตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่รู้สึกถึงลางไม่ดีกับเรื่องราวของคุณ Arthur เป็นอย่างมาก เนื่องจากบันทึกของเข้า จู่ๆ ก็จบลงแบบดื้อๆ ในเดือนตุลาคม แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีมากที่จริงๆ แล้วบันทึกดังกล่าวจะจบลงเพราะ Arthur ได้ออกจากการเป็นทหารและกลับบ้านต่างหาก ไม่ใช่เพราะเขาเสียชีวิตอย่างที่คิด
ทั้งนี้เอง ในปัจจุบัน บันทึกเล่มนี้ได้ถูกวางกำหนดการที่จะนำออกประมูลที่มณฑลดาร์บิเชียร์ ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2020 ที่จะถึงนี้ โดยในเบื้องต้นทางโรงประมูลคาดว่าตัวบันทึก อาจจะมีมูลค่าได้ตั้งแต่ 12,000 – 16,000 เลยทีเดียว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น