“ลูกแมวถูกทิ้งซ้ำซ้อน” ถูกชุบเลี้ยงจนกลายเป็นแมวตัวใหม่ที่สวยสง่าราวกับคนละตัว


ชีวิตคือการเดินทาง ซึ่งระหว่างทางอาจจะเจอทั้งเรื่องดีและไม่ดีปะปนกันไป และนี่คือเรื่องราวการเดินทางของเจ้าเหมียวที่ชื่อ ยู่ยี่ 

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน พลเมืองดีได้ยินเสียงลูกแมวร้องอยู่ในตึกข้างออฟฟิศ ซึ่งตึกนั้นไม่มีคนอยู่ ด้วยความสงสัย เขาจึงแจ้งให้ รปภ. ไขประตูเข้าไปดู

 

 

เมื่อเข้าไปในตึกก็พบว่ามีลูกแมวสีขาวตัวเล็กๆ เพศเมียตัวหนึ่งซ่อนอยู่ในกล่องรองเท้า ใกล้ๆ กันมีมีชามอาหารและน้ำ แต่อาหารหมดแล้ว ส่วนน้ำก็สกปรกจนแทบดื่มไม่ได้

พลเมืองดีที่มากับลุงรปภ. จึงได้เข้าไปอุ้มลูกแมวตัวนั้นออกมาจากตึก

 

 

หลังจากนั้น พลเมืองดีก็หาเบอร์โทรของผู้เช่าที่ย้ายออกไปเพื่อโทรไปสอบถามถึงประวัติของลูกแมวตัวนี้ จนได้ทราบว่าเดิมมีนักศึกษาพาแมวตัวนี้มาอาบน้ำบ่อยๆ เพราะน้องเป็นเชื้อราแมว

อย่างไรก็ตาม ครั้งสุดท้ายที่นักศึกษาคนนั้นพาเจ้าเหมียวมาอาบน้ำ เธอก็ไม่กลับมารับมาอีก ด้านเจ้าของร้านพยายามติดต่อไปหา แต่ก็ไม่ติดต่อไม่ได้

 

 

ผู้เช่าคนเดิมจึงต้องดูแลเจ้าเหมียวตัวนี้จนกระทั่งหมดสัญญาเช่า และเมื่อย้ายออกไป เขาก็ตัดสินใจทิ้งเจ้าเหมียวไว้ที่นี่…

หลังจากทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว พลเมืองดีคนดังกล่าวก็ติดต่อไปหาน้องที่รู้จักกัน นั่นก็คือ คุณเกรียงไกร ซื่อตรง (เจ้าของคนปัจจุบันของยู่ยี่) เนื่องจากตัวเขาต้องไปต่างประเทศและไม่สามารถดูแลเจ้าเหมียวได้

 

 

ทางคุณเกรียงไกรก็ตอบตกลง จากนั้นเขากับภรรยาก็ขับรถจากจ.ระนอง ไปยังกรุงเทพฯ เพื่อไปรับลูกแมวตัวนั้น เป็นระยะทางเกือบ 600 กิโลเมตร

หลังจากใช้เวลาเดินทางเกือบ 8 ชั่วโมง สองสามีภรรยาก็มาถึงปลายทางและนัดรับลูกแมวตัวนี้ในบริเวณย่านบางนาช่วงเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเมื่อได้ลูกแมวมาแล้ว พวกเขาก็ขับรถกลับระนองทันที

 

 

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทั้งคู่ก็พ่าเจ้าเหมียวไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งผลตรวจออกมาว่า น้องไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงแต่อย่างใด แต่ข่าวร้ายคือ น้องเป็นเชื้อราทั่วทั้งตัวเลย

จากนั้นคุณเกรียงไกรและภรรยาก็ช่วยกันรักษาเชื้อราให้เจ้าเหมียวตามคำแนะนำของหมอ ทั้งตัดขน ทายา อาบน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย จนสภาพของเจ้าเหมียวยับเยินไปหมด

 

 

เพราะสภาพยับเยินนี้ พวกขาจึงตั้งชื่อหให้เจ้าเหมียวว่า ยู่ยี่

ไม่กี่วันต่อมา เชื้อราบนตัวของยู่ยี่ก็ค่อยๆ แห้งและตกสะเก็ด เจ้าของจึงต้องอาบน้ำและขัดบริเวณที่ตกสะเก็ดด้วยแชมพูมาลาเซ็บ และเช็ดตัวให้แห้ง

 

 

เวลาผ่านไปหลายเดือน ยู่ยี่ก็หายจากการเป็นเชื้อราและขนใหม่ของมันก็เริ่มงอกขึ้นมา แถมสวยด้วย ที่สำคัญ คุณเกรียงไกรกับภรรยาตัดสินใจพามันไปรู้จักกับแมวตัวอื่นๆ ในบ้าน ซึ่งมันก็เข้ากับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี

ยู่ยี่เองก็เป็นที่ชื่นชอบของแมวตัวอื่นๆ เช่นกัน โดยเฉพาะแมวหนุ่มๆ

 

ปัจจุบั้นยู่ยี่เปลี่ยนไปราวกับแมวคนละตัว ทั้งอ้วนขึ้น ขนสวย ขนพอง สะอาด สุขภาพดี ไม่เจ็บ ไม่ป่วย มีแต่ความสุขและความรักล้อมรอบตัวน้องตลอดเวลา

 

 

ทั้งหมดนนี้ต้องขอบคุณครอบครัวของน้องยู่ยี่ที่ไม่ยอมแพ้ แต่ได้ช่วยเหลือน้องอย่างสุดความสามารถ แม้จะใช้เวลานานและเสียค่าใช้จ่ายไปมาก แต่พวกเขาก็อดทนและพยายามจนถึงที่สุด

เรามั่นใจว่ายู่ยี่เองก็คงซาบซึ้งและรับรู้ถึงความรักของเจ้าของที่มีต่อมันเหมือนกัน

 

 

ตัวไหนคือยู่ยี่ เอาปากกามาวง

 

ยู่ยี่เองจ้า ขนสวยแล้ว มันก็จะหน้าหยิ่งหน่อยๆ

 

ยัง ขนน้องยังขึ้นไม่หมด

 

พี่จ้มอย่าแกล้งยี่นะ เดี๋ยวยี่ฟ้องพ่อแน่

 

ไม่ได้โกรธเคืองใคร แต่หน้าพี่เป็นแบบนี้เอง

 

ใคร ใครเรียกหายี่

 

ที่เห็นพองๆ ข้างแก้ม ไม่ใช่เหนียงนะ ขนล้วนๆ

.

.

.

 

ยิ่งโต ยิ่งแสบ

.

.

 

นุด พี่อยากได้ครีมกันแดดมาทาหน้าหน่อย หน้าดำหมดแล้ว

.

.

.

 

อ่าว ทำไมพี่ส้มตัวเล็กลงอ่ะ หดตัวได้หรอ?

 

เอาขนเลาคืนมา!!

 

งงอะไรพี่ส้ม นี่ยี่เอง ยู่ยี่คนสวยไง

 

ที่มา จอนนี่แมวศุภลักษณ์

Advertisement


Like it? Share with your friends!

0 Comments