ย้อนเวลากลับไปในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2018 นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้พบกับเหตุการณ์สุดแสนประหลาด เมื่อจู่ๆ ก็มีคลื่นสั่นสะเทือนปริศนา (ต่างประเทศเรียกว่า “Hum”) ถูกจับได้โดยอุปกรณ์ตรวจจับแผ่นดินไหว ในขณะที่มันเคลื่อนที่ไปทั่วโลก และเบามากจนไม่มีใครรู้สึก
(อ่านข่าวการค้นพบเหตุการณ์นี้ได้ที่ นักธรณีวิทยาพบ “คลื่นสั่นสะเทือนปริศนา” เคลื่อนที่ไปทั่วโลก และเบามากจนไม่มีใครรู้สึก)
ในเวลานั้น นักวิทยาศาสตร์ได้มีทฤษฎีจำนวนมากที่ออกมาพยายามอธิบายตัวตนของแรงสั่นสะเทือนที่ว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีลาวาใต้โลก ทฤษฎีแผ่นดินไหวแบบช้าๆ หรือแม้แต่ทฤษฎีอุกกาบาตขนาดเล็กพุ่งเข้าชนโลก แต่ก็ยังไม่มีทฤษฎีใดที่ได้รับการพิสูจน์
แต่แล้ว หลังจากเวลาผ่านไปได้กว่า 1 ปี เมื่อล่าสุดนี้เอง ทีมนักธรณีวิทยาจากสถาบันวิจัยธรณีวิทยาเยอรมัน “GFZ” ในพอทสดัม ก็ได้ออกมาไขปริศนาคลื่นสั่นสะเทือนในวันนั้น ให้เราจนได้
โดยจากข้อมูลในรายงานของพวกเขา ดูเหมือนว่าเจ้าคลื่นสั่นสะเทือนปริศนานี้ อาจจะมีที่มามาจากโพรงแมกมาขนาดใหญ่ ลึกลงไปใต้ทะเลอินเดียนั่นเอง
อ้างอิงจากงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience งานวิจัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการค้นพบว่ามีภูเขาไฟใต้น้ำแห่งใหม่เกิดขึ้นที่บริเวณเกาะมายอตระหว่างมาดากัสการ์และโมซัมบิก หลายเดือนหลังเกิดคลื่นสั่นสะเทือนลึกลับในปี 2018
ดังนั้นพวกเขาจึงทำการวิจัยนี้ขึ้นเพื่อสำรวจเส้นทางของแมกมาใต้โลกที่น่าจะทำให้เกิดภูเขาไฟดังกล่าว และพบว่า ลึกลงไปราวๆ 35 กิโลเมตรใต้ทะเลอินเดีย ยังมีโพรงแมกมาขนาดใหญ่อยู่
เจ้าโพรงแมกมาที่ว่านี้มีรูปร่างแปลกตาเป็นอย่างมาก นั่นเพราะมันมีการส่ง “เส้นแมกมา” ใต้พื้นผิวโลก ในสภาพคล้ายทางด่วนเหลือเส้นเลือดของมนุษย์ ซึ่งทำให้แมกมาเคลื่อนที่ผ่านใต้แผ่นดินในระยะทางที่ไกลอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่จะปะทุที่ใต้มหาสมุทรและเกิดเป็นภูเขาไฟในที่สุด
นักวิทยาศาสตร์คาดเดากันว่าที่แมกมามีการเคลื่อนตัวเช่นนี้ อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับการยุบตัวของกะเปาะแมกมา (magma chamber) ใต้ผิวโลก เนื่องจากในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเกาะมายอตได้ยุบตัวลงไปราวๆ 20 เซนติเมตร แถมยังเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิมเล็กน้อยด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์หลายกลุ่มมากที่เชื่อว่า คลื่นสั่นสะเทือนปริศนาในปี 2018 นั้นมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดจาก การยุบตัวของเปลือกโลก และเการคลื่อนที่ของแมกมาใต้ดิน อย่างไรก็ตาม ความเกี่ยวข้องดังกล่าวจะยังไม่ได้มีงานวิจัยที่ผ่านการพิชญพิจารณ์อย่างเป็นทางการแต่อย่างไร
ทั้งนี้เอง แม้ว่าภูเขาไฟจะเกิดขึ้นมาใต้ทะเลแล้วก็ตาม ทีมนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังคงมีการออกมาเตือนอยู่ดีว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวจะยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อไปอีกสักพักเลย
เกาะมายอต สถานที่ที่เชื่อกันว่าการสั่นสะเทือนเกิดขึ้น
ที่มา livescience, eurekalert และ nature
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น