ย้อนกลับไปเล็กน้อยเมื่อราวๆ สัปดาห์ก่อนที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐอเมริกา ได้เกิดเหตุประหลาดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ของมหาวิหารแห่งชาติวอชิงตันได้ค้นพบหน้ากาก N95 กว่า 5,000 ชิ้น ถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดินของวิหารสถานที่เดียวกับที่เก็บร่างไร้วิญญาณขอบุคคลมีชื่อของสหรัฐอเมริกา หลายต่อหลายคนเอาไว้
หน้ากาก N95 จำนวนมหาศาลที่ในครั้งนี้ ถูกค้นพบโดยช่างก่ออิฐที่เข้ามาทำงานในห้องใต้ดิน โดยเมื่อทางวิหารนำหน้ากากที่พบไปตรวจสอบ พวกเขาก็พบว่าหน้ากากทั้งหมดยังคงให้งานได้ดีเป็นปกติเสียด้วย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้สร้างความแปลกใจให้แก่ผู้คนที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่ว่ามีการพูดเล่นกันว่านี่อาจเป็นแผนร้ายอะไรบางอย่างเลยก็ได้ อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องราวที่น่ากลัวหรือราวกับหลุดมาจากทฤษฎีสมคบคิดอะไรแบบนั้นเลย
นั่นเพราะวิหารสืบหาที่มาของหน้ากาก N95 ที่ถูกพบ พวกเขาก็ได้ทราบว่ามันเป็นของที่ถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว ซึ่งในช่วงเวลานั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่โรคไข้หวัดนกกำลังระบาดหนักนั่นเอง
ดูเหมือนว่าในอดีตทางมหาวิหารแห่งชาติวอชิงตันจะได้รับหน้าที่เก็บหน้ากากเหล่านี้ไว้อีกที เพื่อที่พวกเขาจะสามารถนำมันออกมาแจกจ่ายในช่วงเวลาที่จำเป็นได้ ซึ่งสำหรับทางเจ้าหน้าที่แล้วการค้นพบหน้ากากดังกล่าวในเวลานี้พอดี จึงราวกับเป็นการบอกว่า “ช่วงเวลาจำเป็น” ดังกล่าวได้มาถึงแล้วแบบพอดิบพอดี
ดังนั้น พวกเขาจึงได้ถือโอกาสนำหน้ากาก N95 ที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ายังสามารถใช้การได้จริง บริจาคไปยังโรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ สองสถานที่ซึ่งในปัจจุบันมีการรายงานว่ากำลังขาดแคลนหน้ากากทางการแพทย์อย่างหนักทันที
Seek and ye shall find, apparently.
Today @WNCathedral sent 3000 N95 masks to @MedStarGUH and 2000 to @ChildrensNatl after a stonemason found a forgotten stash in the Cathedral crypt. Certified by manufacturer as still good. pic.twitter.com/UNAvhOPssx
— Washington National Cathedral (@WNCathedral) March 25, 2020
นี่นับว่าเป็นอีกข่าวที่ชวนให้ยิ้มได้ในช่วงเวลาที่ภัยร้ายจากโรคโควิด-19 กำลังเป็นที่หวาดกลัวของทั่วโลกจริงๆ และแม้ว่าจำนวนหน้ากากที่ได้ถูกบริจาคไปในครั้งนี้จะไม่ถือว่าเยอะมากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับการบริจาคครั้งอื่นๆ ก็ตาม แต่อย่างในช่วงเวลาเช่นนี้ แม้แต่การสนับสนุนเล็กๆ ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีค่าที่สำคัญเอามากๆ เลย
ที่มา iflscience และ Washington National Cathedral
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น