‘อยู่ดีๆ ก็ตาย ศาลท่านบอก’ อดีตลูกจ้างแจ้งว่าตายศาลก็เชื่อ ส่วนนายจ้างยังไม่ตายจริง

ว่ากันด้วยเรื่องของกฎหมายแล้วในต่างประเทศนั้นถือว่าบังคับใช้กันอย่างเข้มข้น ด้วยพยานหลักฐานอะไรต่างๆ ที่จะนำมาประกอบการพิจารณา จนกระทั่งนำไปสู่การตัดสินอันเป็นจุดสิ้นสุดของข้อพิพาทต่างๆ

แต่มันก็ยังมีข้อผิดพลาดทำให้หลายคนต้องเดือดร้อน ถึงขั้นต้องต่อสู้เพื่อเรียกคืนสถานะ ‘ความเป็นไป’ ของตัวเองกลับคืนมา

เรื่องราวของ Jeanne Pouchain วัย 58 ปีชาวฝรั่งเศส พยายามพิสูจน์ให้ศาลได้รับรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ได้ตายหายจากไปไหน

แต่สถานะการมีตัวตนอยู่ของเธอกลับถูกกำหนดว่าตายไปแล้ว นั่นจึงทำให้สิทธิต่างๆ ที่ควรจะมีหายไปในพริบตาไม่ต่างจากการตายทั้งเป็น

เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของอดีตลูกจ้างรายหนึ่งที่มีปัญหากับเธอมานาน และการพิสูจน์ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่กับศาลนั้นดำเนินมาได้ 3 ปี แล้ว

จากการรับข้อมูลฝั่งอดีตลูกจ้างที่แจ้งข้อมูลเท็จว่านายจ้างตาย มันไม่จบเพียงแค่ข้อพิพาทที่มีระหว่างทั้งสองฝ่าย เพราะมันลามไปถึงสิทธิความเป็นพลเมืองด้วย

ชื่อของ Jeanne จึงถูกลบออกไปจากทะเบียนราษฎร ถูกระงับบัตรประชาชน ใบขับขี่ ประกันสุขภาพ บัญชีธนาคาร เรียกได้ว่าถูกระงับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของเธอ ทำให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีตัวตนอีกต่อไป

จากการสืบเรื่องพบว่าข้อพิพาทระหว่างนาง Jeanne กับอดีตลูกจ้างที่เคยทำงานในบริษัทรับจ้างทำความสะอาด เกิดขึ้นในปี 2004 ลูกจ้างถูกบังคับให้ออกจากงาน หลังบริษัทพลาดเซ็นสัญญาจ้างงานกับลูกค้ารายใหญ่ไป

จนภายหลังอดีตลูกจ้างได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแรงงาน และศาลได้สั่งให้นายจ้างจ่ายเงินชดเชยเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท แต่ยังไม่มีการบังคับคดีอย่างจริงจัง

ปี 2009 อดีตลูกจ้างรายเดิมพยายามตามเรื่องอีกครั้ง แต่ศาลก็ไม่รับฟ้องจนกระทั่งในปี 2016 มีการนำเรื่องยื่นศาลอุทธรณ์อีกครั้ง พร้อมกับข้อมูลที่ทำให้เชื่อว่านาง Jeanne ได้เสียชีวิตไปแล้

ศาลจึงสั่งให้ทายาทตามกฎหมาย ได้แก่สามีกับลูกชาย เป็นผู้รับผิดชอบจ่ายเงินชดเชยคู่กรณีแทน

สิ่งที่ทำให้ศาลเชื่อและประกาศว่านาง Jeanne เสียชีวิตแล้วนั้นก็คือคำกล่าวอ้างของอดีตลูกจ้างกับทนาย บอกว่าพยายามติดต่อหลายต่อหลายรอบแล้ว ไม่ยอมตอบจดหมายและหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีต่างๆ

และนั่นก็คือสิ่งที่ศาลเชื่อ อดีตนายจ้างไม่ยอมตอบจดหมาย และที่ไม่ยอมตอบก็ด้วยเหตุผลว่าตายไปแล้ว…

Sylvain Cormier ทนายความของนายจ้างกล่าวว่า…

“มันเป็นเรื่องที่บ้าบอมาก ผมแทบไม่อยากจะเชื่อ ผมไม่เคยคิดว่าผู้พิพากษาจะประกาศว่าคนหนึ่งตายไปแล้วโดยไม่มีใบรับรองอะไรเลย พอโจทก์อ้างว่าเธอเสียชีวิต ทั้งที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ใดๆ ทุกคนกลับเชื่อและไม่มีใครตรวจสอบด้วย”

Jeanne ระบุว่าอดีตลูกจ้างทำการปลอมแปลงเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ก็เพื่อหวังจะได้รับเงินชดเชยจากคำตัดสินที่เกิดขึ้นไปแล้ว

ส่วนทนายฝั่งอดีตลูกจ้างก็กล่าวหาว่าเธอเป็นฝ่ายที่แกล้งตายจนไม่ยอมตอบจดหมาย ชี้ให้เห็นแล้วว่าหลีกเลี่ยงไม่อยากจ่ายเงินชดเชย

สิ่งที่ยากไปกว่าการพิสูจน์การมีอยู่ของบุคคลนั้นคือการกลับคำตัดสินของศาล แม้ว่านาง Jeanne จะยืนอยู่ต่อหน้าคณะผู้พิพากษามาตลอด 3 ปี

สถานะการมีอยู่ของเธอยังคงไม่ชัดเจน เพราะยังไม่ตายจริงๆ แต่ก็ไม่ได้มีสถานะมีชีวิตอยู่ในทะเบียนราษฎรแล้ว…

เธอต้องการให้ศาลประกาศว่าการเสียชีวิตก่อนหน้านั้นไม่เป็นความจริง เพราะตอนนี้อยู่ไปก็เหมือนตายทั้งเป็น แม้หน่วยงานจะรับรู้แล้วว่าไม่ใช่คนตายอย่างที่เคยมีการแจ้งไป แต่สถานะก็ไม่ใช่คนที่มีชีวิตอยู่ตามกฎหมายอีก

และเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้สถานะ ‘คนเป็น’ กลับมาอีกนานเท่าไหร่

เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์

ที่มา: lefigaro, courthousenews