เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกกันเลยทีเดียว กับเหตุไฟไหม้ป่า ‘แอมะซอน’ ที่ดำเนินมายาวนานหลายสัปดาห์
ทั่วโลกต่างก็แสดงความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะป่าฝนแอมะซอน ถือเป็นป่าฝนที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก และแหล่งผลิตก๊าซออกซิเจนกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของโลก
ส่งผลให้นาย Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีของประเทศบราซิล ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นนี้
เพราะมีการขุดคุ้ยข้อมูลจากภายในออกมาแฉ และพบว่าวิกฤตไฟป่า รวมไปถึงการบุกรุกป่าแอมะซอนที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาในช่วง 1-2 ปีมานี้ เป็นฝีมือของเขาเอง
Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีประเทศบราซิล
ล่าสุดทางด้านประเทศฝรั่งเศสก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว โฆษกประจำรัฐบาลของประเทศฝรั่งเศสออกมาให้สัมภาษณ์ว่า
“ประธานาธิบดีของเรา ได้ข้อสรุปแล้วว่าท่านประธานาธิบดี Bolsonaro ไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้ในงานประชุม G20 ที่โอซาก้า จากเหตุที่เกิดขึ้นนี้ ทางการของฝรั่งเศสขอไม่โหวตอนุมัติข้อตกลง Mercosur”
Emmanuel Macron ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส
ข้อตกลง EU-Mercosur เป็นข้อตกลงทางการค้าที่ฝรั่งเศสและประเทศใน EU มีข้อตกลงร่วมกันกับประเทศในแถบอเมริกาใต้ ประกอบไปด้วย อาร์เจนตินา, บราซิล, ปารากวัย, และ อุรุกวัย-เวเนซูเอลา
ซึ่งข้อตกลงนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติ หากเกิดขึ้น จะกลายเป็นข้อสัญญาทางการค้าที่มีขนาดใหญ่มหึมาระหว่าง EU และประเทศในแถบอเมริกาใต้
ขณะเดียวกันทางด้านนาย Leo Varadkar นายกรัฐมนตรีของประเทศไอร์แลนด์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“จะไม่มีทางที่ประเทศไอร์แลนด์ จะยกมือโหวตอนุมัติให้ข้อสัญญาทางการค้า EU-Mercosur ผ่าน หากบราซิลยังคงละเลยถึงการใส่ใจปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม”
อย่างไรก็ตามจากเหตุดังกล่าวนาย Bolsonaro ก็ออกมาตอบโต้การแถลงของประธานาธิบดีฝรั่งเศสผ่านทางทวิตเตอร์ว่า
‘ประธานาธิบดีฝรั่งเศสฉวยโอกาสจากปัญหาภายในของบราซิล มาสร้างภาพให้กับตัวเองเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป’
– Lamento que o presidente Macron busque instrumentalizar uma questão interna do Brasil e de outros países amazônicos p/ ganhos políticos pessoais. O tom sensacionalista com que se refere à Amazônia (apelando até p/ fotos falsas) não contribui em nada para a solução do problema.
— Jair M. Bolsonaro (@jairbolsonaro) August 22, 2019
ที่มา : independent, reuters, unilad
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น