ป่าแอมะซอนเป็นป่าดิบชื้นกินพื้นที่กว้างใหญ่ราว 5,500,000 ตารางกิโลเมตรในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของพืชและสัตว์จำนวนมาก ขึ้นชื่อว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก
เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าแอมะซอนแห่งนี้ขึ้น แม้ “ไฟป่า” จะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่เพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดขึ้นติดต่อกันราว 3 สัปดาห์แล้ว แถมลุกลามไปราว 3,000 ตารางกิโลเมตร
ไม่เพียงแค่ต้นไม้และสัตว์ป่าจำนวนมากที่ล้มตายไป ควันที่เกิดจากไฟป่าครั้งนี้นับว่าสาหัสมาก จนองค์กร NASA สามารถมองเห็นมันได้จากภาพถ่ายนอกโลกเลยทีเดียว
เมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ถูกปกคลุมด้วยความมืดจากควันไฟที่พัดเข้ามาปกคลุมเมือง ส่งผลทำให้ค่าฝุ่นมลพิษพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวบอกว่า “มันเหมือนกับว่าอยู่ๆ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นตอนกลางคืน แม้แต่ในวันที่ฝนตกท้องฟ้าก็ไม่มืดขนาดนี้”
ในขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าก็ยังคงควบคุมไม่ได้ และร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ จนชาวเน็ตต้องกระตุ้นให้ผู้คนหันมาสนใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและมันกำลังทำลายทรัพยากรโลกไปจำนวนมากผ่าน #PrayForAmazonia
ในแฮชแท็กดังกล่าวมีการเรียกร้องให้สื่อนำเสนอข่าว และระดมความช่วยเหลือ ในฐานะที่ป่าแห่งนี้ถือเป็น “ปอดของโลก” ซึ่งผลิตออกซิเจนให้โลกมากถึง 20%
ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟป่ามากถึง 72,000 จุดในครั้งนี้ คาดว่าเกิดการสภาพอากาศแห้งแล้งจากภาวะโลกร้อน รวมไปถึงการเผาป่าของคนในพื้นที่ด้วย ถือว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ที่มา BBC, CBSNews และ #PrayForAmazonia
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น