ในช่วงกลางคืนของวันศุกร์ที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2020 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติไม่คาดฝันขึ้น เมื่อภูเขาไฟ “อานัก กรากาตัว” (Anak Krakatau) ซึ่งตั้งอยู่ในช่องแคบซุนดาเกิดการปะทุขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง
โดยข่าวการปะทุของภูเขาไฟในครั้งนี้ ถูกรายงานโดยศูนย์บรรเทาภัยพิบัติภูเขาไฟและทางภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซียว่า เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันสองครั้ง คือในช่วง 21.58 นาฬิกา และ 10.35 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะมีการปะทุต่อเนื่องจนถึงเช้าวันต่อมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ปล่องภูเขาไฟไม่เพียงแต่ปล่อยลาวาออกมาเป็นจำนวนมหาศาลเท่านั้น แต่มันยังทำให้เกิด เสียงที่ดังสนั่นจนสามารถได้ยินจากกรุงจาการ์ตา ที่อยู่ห่างไกลไปกว่า 150 กิโลเมตรได้ และเถ้าภูเขาไฟจากการระเบิดเอง ก็พุ่งขึ้นไปสูงถึง 15 กิโลเมตรจากตัวภูเขาไฟที่สูงเพียง 813 เมตร
Anak Krakatoa erupted in Indonesia. In 1883, the ancient volcano exploded, causing climate change worldwide. A long winter rolled in Europe, people stayed at home and it was in this scenario that Mary Shelley wrote Frankenstein.#Krakatau pic.twitter.com/iZO0KwjoDS
— Djenan (@djenanpereira) April 11, 2020
ความรุนแรงของการปะทุที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลกระทบกับพื้นที่รอบๆ มากพอที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้จากดาวเทียมเลย โดยอ้างอิงจากข้อมูลของนำนักข่าวต่างประเทศ นี่นับว่าเป็นการปะทุครั้งรุนแรงที่สุดของภูเขาไฟลูกนี้ นับตั้งแต่มีปะทุครั้งล่าสุดในเดือนธันวาคมปี 2018 ซึ่งทำให้เกิดเหตุสึนามิที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คนเลย
แน่นอนว่าหลังจากที่ภูเขาไฟอานัก กรากาตัว ปะทุจนถึงในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของอินโดนีเซียก็ได้มีการวางระดับการเตือนภัยระดับ 2 (จากทั้งหมด 4 ระดับ) เอาไว้ และจัดตั้งทีมสังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงของภูเขาไฟลูกนี้ตลอด 24 ชั่วโมงในทันที
ร่องรอยการปะทุของภูเขาไฟอานัก กรากาตัวที่ยังคงเห็นได้แม้ในวันต่อมา
ทั้งนี้เองภูเขาไฟอานัก กรากาตัวนั้น ถือว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังค่อนข้างใหม่โดยมันเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ค.ศ. 1927 หลังจากการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งทำลายเกาะกรากาตัวในปี 1883 โดยมันนับเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดลูกหนึ่งของอินโดนีเซีย และเป็นหนึ่งในภูเขาไฟกว่า 127 ในประเทศที่ยังคงคุกรุ่นอยู่แม้ในปัจจุบัน
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น