สถานการณ์ COVID-19 ในบางประเทศเริ่มคลี่คลายลงตามลำดับ ซึ่งในตอนนี้ก็มีผู้ป่วย COVID-19 หลายคนเริ่มหายดีและกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม
เช่นเดียวกันกับพิธีกรหนุ่มชื่อดังในอเมริกาอย่าง Andy Cohen ค่ะ
เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Andy ถูกตรวจพบว่าตนเองเป็น COVID-19 และเขาก็รักษาตัวจนหายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
บอกเลยค่ะว่าพลาสมาของคนที่หายจากโรค COVID-19 เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่หลายๆ ประเทศต้องการเป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยคนอื่นๆ ได้หลายรายเลยล่ะ
แต่ทว่าหนุ่ม Andy กลับบริจาคพลาสมาไม่ได้ในทันที เพราะเหตุผลว่าเขาเป็นเกย์…
เมื่อไม่นานมานี้ Andy ได้กลับมาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ Watch What Happens Live with Andy Cohen ของตนเองอีกครั้งผ่านวิดีโอคอลในอพาร์ตเม้นท์ของตนเอง
เขาออกมาเล่าเกี่ยวกับวิธีที่แสนจะโบราณและเลือกปฏิบัติขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ที่ไม่ยอมให้เขาช่วยบริจาคพลาสมาเพื่อช่วยสถานการณ์ COVID-19 ในครั้งนี้ เขากล่าวว่า
“หลังจากที่ผมหายจากโรคโคโรน่า ผมอยากจะทำบางอย่างเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ติดเชื้อเหมือนกัน
ผมเลยสมัครเข้าโครงการบริจาคพลาสมาที่เต็มไปด้วยแอนติบอดี้เพื่อจะได้เอาไปสู้กับไวรัส
แต่แนวทางป้องกัน HIV ที่โบราณและเลือกปฏิบัติของ FDA ทำให้ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะบริจาคเลือดเพราะผมเป็นเกย์”
จริงๆ แล้วทาง FDA มีกฎเรื่องการบริจาคเลือดมานานแล้วค่ะว่า หากใครที่เป็นเกย์และต้องการจะบริจาคเลือดต้องเว้นการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 12 เดือน แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางองค์กรได้ลดหย่อนให้เป็น 3 เดือนแทน
“ถึงจะมีกฎใหม่แล้วก็เถอะ แต่คู่รักเกย์ต้องอยู่กับความสัมพันธ์แบบไม่มีเซ็กส์ไปตลอด 3 เดือนงั้นเหรอ?
ความต้องการพลาสมามันเร่งด่วนมาก แต่คนที่เป็นเกย์ก็ยังถูกปฏิเสธแม้ว่าจะมีการตรวจเชื้อ HIV ในการบริจาคเลือดแล้วก็ตาม
ทำไมพวกเราถึงถูกกีดกันไม่ให้ช่วยเหลือคนที่ป่วยหรือกำลังจะตายล่ะครับ? เพราะพวกเราคือความอัปยศในทางวิทยาศาสตร์งั้นเหรอ?
เลือดของผมสามารถช่วยชีวิตคนได้ แต่มันกลับต้องมาเดือดพล่านอยู่ตรงนี้”
หลังจากที่ Andy เผยแพร่วิดีโอออกไปก็มีหลายๆ คนมาแสดงความคิดเห็นค่ะ
ส่วนมากจะออกไปในทางเห็นด้วยกับเขาว่าทำไมคนที่เป็นเพศที่สามถึงไม่สามารถบริจาคพลาสมาได้ ทั้งๆ ที่เพศชายหญิงก็มีเพศสัมพันธ์ไม่ต่างจากพวกเขาเช่นกัน…
ลองชมคลิปเต็มๆ ได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ
https://www.instagram.com/p/B_WU5deJtJM/
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: buzzfeed
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น