เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวขึ้นเกี่ยวกับเจ้าของร้านคาเฟ่ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงทัวร์ลงไม่หยุด
จากการที่ตัวเจ้าของร้านแชร์ภาพจากแอป Snapchat เอง เผยให้ความชอบอกชอบใจกับใบเสร็จรับเงินที่เขียนระบุไว้ว่า ‘สองชาวเอเชียน่ารำคาญ’ เพื่อระบุว่าเป็นลูกค้าโต๊ะไหน
เมื่อเจ้าของร้านโดนกล่าวหาก็พยายามปัดและบ่ายเบี่ยงประเด็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ จนกระทั่งออกมาขอโทษกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมผ่านสื่อ
Shay Hayston คือเจ้าของร้านและผู้จัดการร้าน Froth on Brunswick ทำการโพสต์ภาพใบเสร็จบนแอป Snapchat พร้อมกับแคปชั่น ‘โอ้คุณพระ ผมรักพนักงานพวกนี้จัง’ พร้อมอิโมจิหัวเราะน้ำตาไหล
ชาวเมืองบริสเบน Alec Madara เป็นคนเจอภาพดังกล่าวในระบบสตอรี่ของแอป Sanpchat และทำการตักเตือนนาย Hayston ว่าพฤติกรรมการแสดงออกเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
เขาแชร์ภาพการพูดคุยระหว่างนาย Hayston ให้ทุกคนได้เห็น ว่าเจ้าของร้านคนนี้มีความคิดอย่างไรกับประเด็นที่เกิดขึ้น เขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องตลกขำๆ เท่านั้น คนที่มองเป็นจริงเป็นจังควรตั้งสติหน่อย
ด้วยความที่นาย Hayston เองในฐานะเป็นผู้จัดการร้าน นาย Alec คิดว่าเขาควรประณามพฤติกรรมเช่นนี้เสียด้วยซ้ำ “มันไม่มีความเป็นมืออาชีพและไม่เหมาะสมเลย”
การสนทนาเริ่มดุเดือดย้ายฝั่งมาบน Messenger เมื่อนาย Hayston กล่าวกับ Alec ว่าหยุดทำตัวสวมบทเดือดร้อนแทนเหยื่อได้แล้ว จะดราม่าอะไรเยอะแยะ
ซึ่งทางฝั่งนาย Alec ก็กล่าวว่าเขาทำในสิ่งตรงกันข้าม ไม่ได้เดือดร้อนแทนเหยื่อแต่ประณามพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อคนอื่นต่างหาก
ภาพหลักฐานการพูดคุยกับเจ้าของร้านคาเฟ่ดังกล่าวจึงถูกนำออกมาแฉบนอินสตาแกรมทั้งหมด เพราะพฤติกรรมเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในปัจจุบัน ไม่ให้เกียรติลูกค้าเท่าที่ควร ยิ่งสถานการณ์ที่คนเอเชียถูกทำร้ายตกเป็นเป้าอยู่บ่อยๆ ยิ่งอันตราย และเจ้าของร้านที่มีพฤติกรรมน่าละอายเช่นนี้ต้องรับผิดชอบด้วย
“เสียใจอย่างสุดซึ้งและรู้สึกละอายใจ”
คงไม่ต้องคาดเดากันให้ยากว่า หลังจากโดนแฉให้ทุกคนได้รับรู้ถึงพฤติกรรมและทัศนคติของเจ้าของกิจการที่มีต่อลูกค้าชาวเอเชียไปแล้ว
เจ้าตัวได้แถลงการณ์ขอโทษผ่านสื่อในวันที่ 5 เมษายน 2021 ระบุว่าส่วนตัวต้องการขอโทษสำหรับความผิดและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
เขาเสริมว่าเป็นเจ้าของกิจการในพื้นที่มานานกว่า 6 ปีแล้ว และเขาเป็นคนที่ยอมรับในความหลากหลาย
“ผมขอแสดงความเสียใจและความละอายใจอย่างสุดซึ้งต่อการกระทำของผมที่กระทบต่อทุกสิ่งที่ผมเคยภาคภูมิใจ ลึกๆ แล้ว ผมกับทีมงานจะพยายามทำให้ดีกว่านี้เพื่อให้มั่นใจว่าเรายึดถือความหลากหลายและความเป็นเอกภาพซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรา”
หลังจากเรื่องนี้จบลง หน้าโซเชียลมีเดียของร้านก็ถูกปรับเป็นแบบส่วนตัวทั้งหมด บัญชีส่วนตัวของนาย Hayston ก็ถูกลบออกไปหายจนเกลี้ยง
ที่มา: 9news, yahoo, @alex_carthos
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น