กลายเป็นเรื่องใหญ่โตของเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เกิดความวุ่นวายระหว่างฝ่ายนักศึกษากับเจ้าหน้าที่คณะวิจิตรศิลป์ โดยนำผลงานศิลปะและธีสิสของนักศึกษาใส่ถุงดำเพื่อนำไปทิ้งและไม่ได้แจ้งมาก่อนว่าจะทำเช่นนี้
.
ในระหว่างที่มีการเข้ามาเคลียร์สถานที่นั้น ฝั่งนักศึกษาได้เข้ามาขอคำชี้แจงว่าจะยึดผลงานเหล่านี้ไปทำไม และขอให้ทางผู้ที่เข้ามาเก็บงานศิลปะนั้นแสดงบัตรหรือแสดงตัวตนว่าเป็นใคร
ไลฟ์เหตุการณ์ทั้งหมดจากเพจประชาคมมอชอ
ผลงานบางส่วนที่ถูกยึดไปและใส่ถุงดำเหล่านี้ไม่ทราบว่าจะถูกนำไปเก็บหรือทิ้งที่ไหน ทั้งนี้ทางด้านนักศึกษาเองมองว่าผลงานของพวกเขากลับไม่ได้รับความสำคัญทั้งๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการทำงานกันอยู่
.
.
.
.
เมื่อการเจรจาไม่เป็นผลว่าทำไมถึงต้องยึดผลงานศิลปะเหล่านี้ไปทิ้ง ทางนักศึกษาเองก็ทำการนอนขวางทางรถเพื่อไม่ให้ขับเคลื่อนหนีไปไหน
จนต้องลงมาเจรจากันอีกรอบ เนื่องจากยังไม่เอกสารการชี้แจงอะไรที่ถูกต้องจากคณะให้เห็น และการกระทำโดยพลการเช่นนี้ไม่ต่างไปจากการลักทรัพย์
จนกระทั่งอาจารย์ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษากลุ่มนี้ได้เข้ามาสอบถามว่ามีอะไรเกิดขึ้น และทำการเจรจาพร้อมกับสั่งสอนเตือนสติให้อาจารย์ที่เข้ามาเก็บผลงานนักศึกษาว่า…
“นักศึกษาเหล่านี้คือลูกศิษย์ของผม เป็นศิลปินไม่เป็นขี้ข้าใคร เป็นอาจารย์เหมือนกันหรือเปล่า รักและเคารพศิลปะไหม รักและเคารพในมนุษย์ไหม ศิลปะไม่เป็นเจ้านายใครและไม่เป็นขี้ข้าใคร
สมบัติเหล่านั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของเขา เพิ่งแสดงผลงานวิทยานิพนธ์เสร็จ แล้วยูเป็นใคร เป็นนักการภารโรงเหรอที่มาเก็บกวาดให้เขา ทำงานศิลปะอยู่หรือเปล่าทุกวันนี้ น่าอายไหม ทำไมกระจอกตั้งแต่เด็กจนโต”
สุดท้ายแล้วทางฝั่งอาจารย์และบุคลากรที่เข้ามาเก็บผลงานศิลปะก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่า ตกลงแล้วจะเก็บผลงานของนักศึกษาไปทำไม และยินยอมคืนผลงานแก่นักศึกษาแล้ว
อาจารย์ทัศนัย ยังคงเดินตามเพื่อหาคำตอบพร้อมกับสั่งสอนว่า ‘อย่าทำอย่างนี้อีก ศิลปะอับอายมามากพอแล้ว เพราะไอ้คนที่มันไม่รักเสรีภาพแบบนี้’
ทำไมต้องมาเก็บกวาดกันแบบนี้ บางคนเพิ่งแสดงงานเสร็จ บางวิชาก็ยังเรียนกันไม่เสร็จ ยังทำงานกันอยู่ แล้วทำไมอาจารย์มาทำอะไรแบบนี้
คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ เป็นการเข้าใจผิดกันเล็กน้อยในบางเรื่องอย่างเช่นความสกปรกจึงต้องทำการเก็บกวาด จนในที่สุดก็ต้องแยกย้ายกันไป โดยที่คำตอบที่ชัดเจนนักศึกษาก็ต้องการจากทางคณะวิจิตรศิลป์อยู่ดี
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: @kobu.kaeru, @communityofmorchor
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น